COLUMN
Jul. 21 2015
ถ้าได้ลองเข้าร้านหนังสือภาษาญี่ปุ่น เปิดไกด์บุ๊คนำเที่ยวฮอกไกโด ภาษาญี่ปุ่น หลายๆ เล่มเทียบกัน แน่นอนว่าทุกเล่มต้องมี “สวนสัตว์อาซาฮิยามะ” (Asahiyama Zoo) แนะนำเป็น highlight หลักด้านในแน่นอน ก็เพราะที่สวนสัตว์อาซาฮิยามะนี้ เป็นสวนสัตว์ “ชื่อดัง” ของฮอกไกโด … ไม่สิ! ชื่อนี้ติดอันดับต้นๆ ของสวนสัตว์ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว รู้ไหมว่า สวนสัตว์นี้มีจุดเด่นคือการจัดแสดง “กรงสัตว์” ให้เราๆ ได้เห็นในทุกมุมมองของสัตว์นั้นๆ ไม่ใช่แค่การเกาะอยู่ที่ขอบกรง แล้วมองเข้าไปในกรง ถ่ายรูปๆ แล้วกลับเหมือนที่อื่นๆ หรอกนะ ที่นี่เขาทำแต่ละกรงให้เหมือนกับว่า “เราได้เข้าไปอยู่ในกรงกับพวกสัตว์” เลยนั่นเอง เราจะได้เห็นในทุกมุมมอง ทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของสัตว์ แบบริงไซด์ โคลสอัพ ถึงที่สุดเลยทีเดียวเชียว ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้สวนสัตว์แห่งนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาทันที นับตั้งแต่การปรับปรุงในปี 1997 (พ.ศ.2540)
สวนสัตว์มีขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาอาซาฮิยามะ เริ่มเปิดทำการตั้งแต่ปี 1967 (พ.ศ.2510) และปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี 1997 (พ.ศ.2540) ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และกลายเป็นสวนสัตว์อันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงวันนี้ แน่นอนว่าที่นี่ถือเป็นจุดที่ “ต้องแวะ” เมื่อได้มีโอกาสผ่านมาที่อาซาฮิกาวะ (Asahikawa) นั่นเอง
เราเริ่มจากการเดินทางกันก่อนเลยดีกว่า จุดตั้งต้นที่ดีที่สุด และ “ไม่งง” ก็คือ จากสถานี JR Asahikawa (เมือง Asahikawa อยู่ห่างจาก Sapporo ประมาณ 1:25 ชั่วโมง โดยรถไฟ) หาป้ายรถบัสหมายเลย 6 ให้เจอ แล้วก็รอบัสตามเวลา สายที่ไปคือ 41, 42, 47 บัสมาถี่ประมาณทุกๆ ครึ่งชั่วโมงได้
ภายในสถานี JR Asahikawa จะมีป้ายบอกทางไป ป้ายหมายเลย 6
สภาพภายในสถานี ดูโปร่ง และสะอาดมาก
จุดขึ้นบัส หมายเลย 6
ก่อนขึ้นรถ ให้หยิบกระดาษใบเล็กๆ (หรือไม่ก็ได้ หากจะลงสุดสายที่สวนสัตว์เลย) ติดตัวไปด้วย รถบัสใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ค่าเสียหาย คนละ 440 เยน นั่งไป ดูวิวเมืองไป ไม่กี่อึดใจก็มาถึงสุดสาย หน้าสวนสัตว์อาซาฮิยามะแล้ว ก่อนเข้าสวนสัตว์ อย่าลืมถ่ายรูปตารางเวลารถขากลับไว้ด้วยนะ เผื่อว่าเที่ยวเพลิน รถหมดเสียก่อน
จุดรถบัสจอด ส่วนขากลับก็ขึ้นที่นี่ได้เลย
บริเวณด้านหน้าทางเข้า (พอดีเรามาถึงเร็วไปหน่อย ยังไม่เปิด)
ซื้อตั๋วด้านหน้าได้เลย แม้จะยังไม่เปิดตามภาพบน ตั๋วราคา 820 เยน มีเอกสารแผ่นพับภาษาอังกฤษให้ด้วย
หน้าตาตั๋ว
ที่นี่แม้จะบอกไปแต่ต้นแล้วว่าเป็นสวนสัตว์ที่ไม่กว้างมากนัก แต่อย่าลืมที่บอกไปก่อนหน้าด้วยว่า “มีการจัดแสดงกรงที่ดีมากกกก” ใครคิดจะไปครึ่งวันแปปๆ นี่อาจจะเสียดายก็ได้นะ เพราะว่าแต่ละกรง หรือส่วนแสดงสัตว์นั้นๆ เนี่ย เข้าไปแล้วออกมายากมาก คือ อะไรๆ ก็น่าสนใจ น่าเรียนรู้ไปหมด กว่าจะวนออกมาได้ เวลาก็ผ่านไปอย่างเร็วเลย
เมื่อผ่านเข้ามาแล้วจะเจอลานกว้าง ให้แวะถ่ายรูป หรือเตรียมตัวก่อนว่าจะไปดูอะไรกันดี (Tip1) ที่นี่มีข้อดีคือ ไม่กว้างมากนัก มีลักษณะเป็นเนินขั้นบันไดขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้เมื่อออกจากที่หนึ่งแล้ว ก็จะเจอกรงสัตว์ต่อไปเลยทันที เป็นรูทให้เราเดินได้ง่ายๆ เลย หรือแม้จะเดินมั่วๆ ก็สามารถเข้าชมตัวเด่นๆ ได้เกือบครบแล้วเหมือนกัน ข้างลานกว้างจะมีกรงแรก คือกรงนก หลายชนิด และถัดไป ก็คือ บ้านเพนกวิน
ที่กรง? ขอเรียกบ้านเพนกวิน เมื่อก้าวเข้ามา จะตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์น้ำ จะเห็นเพนกวินว่ายไปมา ราวกับจรวด แบบว่าถ่ายรูปยากมาก เดินวนเข้าไปอีก จะเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการ ให้ความรู้เกี่ยวกับเพนกวิน วนมาชั้นบน ก็จะเห็นอีกมุมหนึ่ง ของเพนกวิน ที่กำลังว่ายน้ำ หรือจะส่องดู เพนกวินด้านนอกก็ได้เช่นกัน ไฮไลท์ของเพนกวินจะอยู่ในช่วงฤดูหนาว โดยสวนสัตว์จะนำพวกมันออกมาเดินพาเหรด อย่างใกล้ชิดมาก รับรองว่าพาเด็กมาด้วย ต้องชอบแน่ๆ
ลานโล่งกว้าง บริเวณทางเข้า
บริเวณอุโมงค์เพนกวิน จะหยุดสายตาทุกคู่ที่เข้ามา
มองเห็นได้ทุกมุม
มุมมองของ “เพนกวิน” เมื่อมองย้อนลงไปที่อุโมงค์น้ำ จากด้านบน
อีกมุมหนึ่ง จะเห็นอุโมงค์อยู่ทางขวา
บรรยากาศนอกบ้านน้องกวิน เหมือนกำลังดูคนอยู่ในตู้ทางซ้าย
ใกล้กันกับบ้านเพนกวิน ก็คือ “บ้านแมวน้ำ” จุดเด่นของบ้านนี้ อยู่ที่หลอดแก้วกลางห้อง ที่เราจะต้องรอเวลาให้เหล่าแมวน้ำว่ายผ่าน เจ้าแมวน้ำก็เหมือนจะรู้งาน พอคนเริ่มมุงเยอะๆ ก็จะว่ายโชว์อวดโฉมให้เห็นรอบด้านเลย นอกจากส่วนนี้แล้ว ยังมีการจัดแสดงโชว์การให้อาหารแมวน้ำเป็นรอบๆ บริเวณลานด้านบนด้วยล่ะ
หลอดแก้วเด่น และคนเริ่มมุง
ว่ายมาอวดแล้ว
ออกจากแมวน้ำปุ๊ป ต่อกันเลยกับพระเอกของที่นี่ “หมีขั้วโลก” (หมีขาว) บ้านพี่แกค่อนข้างใหญ่ อยู่กันหลายตัว มีทั้งส่วนเล่นน้ำ ส่วนลานปกติ ที่มีช่องให้เราเอาหัวลอดไปเจอะหน้าพี่หมีจังๆ ได้ บ้านนี้คนเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณพี่แกเล่นน้ำ คนจะรอถ่ายรูปกันเยอะเลย
ช่วงเวลาแห่งความสุข กับการเล่นของเล่น
ส่วนของด้านนอกบ้าน พี่หมีก็จะเดินอวดไปมา
จริงๆ แล้วไฮไลท์ของที่นี่ก็จะมีอยู่ประมาณนี้ ใครเวลาน้อยจริงๆ มาดูแค่นี้ก็น่าจะพอ แต่คิดว่าหลงเข้ามาแล้ว แวะดูสัตว์อื่นๆ ก็น่ารักไม่แพ้กัน
ถัดจากบ้านหมีขาว ก็เป็นกรง “แพนด้าแดง” (Red Panda) มีการจัดแสดงกรงที่น่าอัศจรรย์มาก คือ เปิดโล่งข้ามหัวเราไปเลย แบบไม่กลัวมันหนี เห็นได้ชัดว่าเด็กๆ ที่มาดู จะตื่นเต้นกันมาก
จัดแสดงโดยทำสะพานข้ามหัวเรา ไปเกาะอีกต้นได้เลย
แวะโพสท่าตรงกลางสะพาน หน้าเครียดๆ นะ
อีกจุดที่แนะนำคือ บริเวณ “บ้านชิมแปนซี” ที่สร้างค่อนข้างอลังการ กว้างใหญ่ เห็นทุกมุมมองอีกเช่นเคย เช่น มองจากมุมล่างขึ้นไป, จัดแบบเหมือนเราอยู่บนเสากับมัน หรือจัดแบบให้พวกมันมาดูเรา เป็นต้น
ใกล้ชิด เห็นแม้ช่วงล่าง
จุดนี้ให้ความรู้สึกว่าเราได้อยู่ในกรงกับมัน นั่งมองคนมาดูกัน
จุดมองจากมุมสูง ส่งให้เห็นผู้คนจากด้านล่างด้วย
สัตว์อื่นๆ นอกจากนี้ ก็ยังมี ยีราฟ, ลิงต่างๆ, อุรังอุตัง, หมาป่า, ฮิปโป, หงส์ และสัตว์ตัวเล็กๆ ต่างๆ เช่น นก, กระต่าย, ฯลฯ
นกอินทรีทะเลชเตลเลอร์ สง่า, เท่ห์ คอยโฉบไปมา
กรงครอบครัวอุรังอุตังพ่อแม่ลูก ตัวนี้เป็นตัวผู้
มาเรื่องอาหารการกินกันบ้าง ในสวนสัตว์จะมีร้านอาหารขนาดใหญ่อยู่บริเวณกลางสวน ใกล้บ้านแมวน้ำ และบ้านหมีขาว อาหารของที่นี่จะเป็นแบบหยอดเหรียญ โดยเลือกอาหารที่อยากทาน จำหมายเลข แล้วซื้อคูปองผ่านตู้ได้เลย หลังจากได้คูปองแล้ว นำไปยื่นให้พนักงาน ก็จะได้รีโมทมาอันหนึ่ง ซึ่งถ้าดังขึ้นเมื่อไหร่ ให้เอาไปยังจุดที่ได้รับมา ก็จะได้รับอาหารไปทานนั่นเอง
ตู้ขายคูปอง อ่านไม่ออก ให้ดูภาพ จำหมายเลขแล้วกดซื้อเอา
ลองสั่งเป็นข้าวหน้าหมู สุกี้ยากี้ รสชาติโอเคเลย
ส่งท้าย
สวนสัตว์อาซาฮิยามะนี้ นอกจากจะมาดูสัตว์แล้ว อยากให้สังเกตดูการจัดวางตำแหน่งกรงต่างๆ ด้วย จะเห็นถึงความฉลาดในการนำเสนอ ความใส่ใจของสถาปนิก และการเข้าใจธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิด ที่นำมาจัดแสดงมีการอธิบายต่างๆ ให้เราเข้าใจง่าย แม้จะอ่านไม่ออก บางกรงจะเหมือนกับว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งที่มาให้พวก “สัตว์” ดูเสียเอง ทำให้ต้องคิดทบทวนใหม่ว่า สรุปแล้ว…ใครมาดูใครกันแน่
Discover Cool Things ! … Trippino Hokkaido
————————————————————————————
・การเดินทางจาก JR Asahikawa
→ขึ้นบัส ที่ป้ายหมายเลข 6 หน้าสถานี (ก่อนขึ้นถามคนขับก่อนก็ได้ว่าไปไหม) ลงสุดสาย
Tip1 : เปิดแอพพลิเคชั่น Trippino Hokkaido บริเวณทางเข้า จะได้รับ “สติ๊กเกอร์” ประจำสวนสัตว์ไปครอง ใช้อวดเพื่อนๆ ว่าไปมาแล้ว หรือตกแต่งภาพถ่ายได้
Tip2 : สวนสัตว์มีบริเวณที่ต้องเดินกลางแจ้งอยู่มาก ตรวจสอบพยากรณ์อากาศให้ดี หากรู้ว่าฝนตกให้พกร่มไปด้วย
Tip3 : แต่ละกรงสัตว์ จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ สิ่งที่ไม่ควรทำเลยคือ การถ่ายภาพแบบเปิดแฟลซ และการนำกล้องไปจ่อตัวสัตว์ แบบยื่นเข้าไปในกรงจนเกินไป
Tip4 : ที่สวนสัตว์จะมี Free WiFi บริการให้ด้วย แต่จะเป็นเฉพาะจุดหลักๆ เช่น ทางเข้าหลัก, ร้านอาหาร เป็นต้น
Tip5 : ค่าอาหารค่อนข้างแพงไปนิด เมื่อเทียบกับปริมาณ ใครอยากประหยัดเพิ่ม ให้ซื้อของกินตุนมาจากบริเวณสถานี Asahikawa ได้เลย ที่สวนสัตว์จะมีจุดให้นั่งทานของว่างได้
Tip6 : แต่ละกรงของสัตว์ไฮไลท์ จะมีช่วงเวลาการโชว์ให้อาหาร เรียกว่า “MoguMogu Time” ลองเช็คเวลาบริเวณหน้ากรง เพื่อวนกลับมาดูได้
Tip7 : สัตว์แต่ละชนิดจะมีช่วงเวลาพักผ่อนต่างกัน บางครั้งไปแล้วอาจไม่สามารถดูสัตว์บางประเภทได้
Tip8 : สัตว์บางตัว อาจไม่จัดแสดงให้ดูในฤดูหนาว เนื่องจากอากาศที่หนาวเกินไป
ข้อมูลที่จำเป็น
สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)
ที่อยู่ :Higashiasahikawacho Kuranuma, Asahikawa, Hokkaido, GPS : 43.768425, 142.48008
Tel.:+81 166-36-1104 Time : ฤดูร้อน 9:30-17:15, ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค.-พ.ย.) 9:30-16:30, ฤดูหนาว : 10:30-15:30
URL https://www.city.asahikawa.hokkaido.jp/asahiyamazoo/generalinformation/index.html
NEXT RECOMMEND
Mar. 192016
Aug. 312018
คอลัมน์ท่องเที่ยวฮอกไกโด
LATEST
Nov. 21 2024