COLUMN
Jul. 21 2016
จั่วหัวมาแบบนี้ แน่นวล เราจะมาพาไปเที่ยวโซนฟุราโนะกัน กลางเดือนกรกฎาคมแบบนี้ ลาเวนเดอร์บานซะขนาดนี้ จะเป็นที่อื่นไปได้อย่างไร ทริปนี้ขอแค่รถเช่าหนึ่งคัน กับแอพทริปปิโน่ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
การเช่ารถในญี่ปุ่น ต้องมีใบขับขี่สากล และพาสปอตในการเช่า ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่ารถโดยเฉลี่ยแบบรวมประกันแล้ว อยู่ที่ประมาณวันละ 10,000 yen (รถยนต์ขนาดเล็ก นั่ง 4 คน) การขับขี่ในประเทศญี่ปุ่นต้องปฏิบัติตามกฎจราจรของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด
เส้นทางที่เราจะไปกัน
Sapporo – Ohashi Farm (116km)
ไหนๆเช่ารถแล้ว ทริปนี้เราตั้งเป้าว่า ออกจากซัปโปโร ไปเช้า-เย็นกลับมาหาอะไรอร่อยๆกินที่ซัปโปโร คิดได้ดังนี้แล้วก็รีบออกแต่เช้าดีกว่า เดี๋ยวคนจะเยอะ (ยังไงคนก็เยอะอยู่ดี จะเหยียบกันตาย ต้องทำใจ) เริ่มต้นเราขอพาขึ้นทางด่วน ไปลงที่ Takikawa ผ่านไปที่เมือง Ashibetsu กันก่อน ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงเศษๆ มาที่นี่ทำไม่น่ะเหรอ มาเก็บเชอรี่สิ วันนี้พามาที่สวนเชอรี่ Ohashi farm กันก่อนเลย ที่นี่เสียเงินเข้าไปแล้ว เพียงแค่คนละ 1,500 เยน สามารถเก็บเชอรี่สดๆจากต้นกินได้ไม่อั้น ก่อนเข้าไปต้องฝากกระเป๋าซะก่อน เค้าให้เอาเข้าไปเฉพาะกระเป๋าของทางสวนเท่านั้น พอเข้าไปแล้วจะกินเท่าไหร่ก็ได้ หากอยากเก็บกลับมาต้องมาชั่งน้ำหนักแล้วเสียเงินนะ 100 กรัม 270 เยน แน่ะ แอบแพงหน่อย แต่เราก็ได้เลือกเองสดๆจากต้นนะจ๊ะ หากใครอยากจะเก็บกลับมาก็เก็บใส่กระเป๋าที่เค้าจัดไว้ให้ได้เลย หรือหากใครขี้เกียจเก็บ จะออกมาซื้อข้างนอก ที่ทางสวนจัดเป็นแพคเกจไว้ให้แล้วก็ได้เหมือนกัน
มีวางขายเป็นกล่องๆ แยกสายพันธุ์
เชอร์รี่แดงก่ำ สดๆ จากต้น
Ohashi – Farm Tomita (29km)
อย่าเพิ่งกินกันเพลิน วันนี้ยังพาไปกินอีกหลายอย่าง เผื่อท้องไว้บ้าง มาๆ ไปดูลาเวนเดอร์กันดีกว่า ขับออกมาจากสวนเชอรี่ราว ครึ่งชั่วโมง มุ่งหน้าไปยังเมืองฟุราโนะ ก็จะมาเจอกับฟาร์มโทมิตะอันโด่งดัง ที่นี่มีที่จอดรถฟรีให้ (แต่ขอบอกว่าช่วงนี้รถติดยาวมากมาย ตรงช่วงทางเข้าที่จอดรถของสวน ต้องทำใจร่มๆไว้ก่อนนะชาวทริปปิโน) จอดรถได้แล้วก็ลุยเลยจ้า มีทั้งโซนสวนลาเวนเดอร์ สวนพาโนรามา สวนทานตะวัน อย่างไรก็ตาม อย่าเดินเข้าไปในสวนหรือเหยียบดอกไม้นะจ๊ะ ถ่ายรูปในส่วนที่เค้าจัดไว้ให้ก็สวยแล้วจ้า
ลาเวนเดอร์หลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกถ่าย
ถึงจุดๆนี้ อย่ามัวถ่ายรูปเพลินจนลืม จุดขายของฝาก ลาเวนเดอร์เต็มทุ่งขนาดนี้ ที่นี่ก็จะมีผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์มากมายให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ด้านล่างยังมี Melon house ให้ได้เลือกอร่อยกับผลิตภัณฑ์เมลอนมากมายหลายรูปแบบ หรือจะซื้อทั้งลูกกลับไปเป็นของฝากก็ได้ มีบริการส่งข้ามประเทศให้ด้วย แอบดูราคามา ลูกละ 2,000 กว่าเยน ค่า shipping นี่ อื้อหือ 2,000 กว่าเยนเหมือนกัน คิดไปคิดมาคุ้มมั้ยหว่า เอาเป็นว่ากินที่นี่ให้เปรมก่อนละกันนะ
เสร็จจากที่ฟาร์มโทมิตะ แนะนำว่า ควรออกจากที่นี่ไม่เกินเที่ยง เพราะเรายังมีจุดหมายอีกหลายแห่ง ว่าไปแล้วก็เที่ยงกว่าแล้วนี่นา กินซอฟท์ครีมก็แล้ว เมลอนก็แล้ว แต่ยังอยากได้อะไรหนักๆ มาๆ ไปกันต่อเลยดีกว่า อย่าช้าตั้ง GPS ไปที่ ฟุราโนะ ไวน์เฮาส์ แล้วไปกันเลย
Farm Tomita – Furano Wine House (9km)
ที่ไวน์เฮาส์นี่อยู่ห่างจากฟาร์มโทมิตะไปแค่ สิบกิโลเท่านั้นเอง ขับรถไปไม่ต้องรีบ อ้อ อย่าลืม ที่ญี่ปุ่นจำกัดความเร็วอยู่ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ถ้าเป็นทางด่วนก็ 80 กิโลเมตร ขับรถระมัดระวังกันด้วยนาจา ที่นี่เมนูแนะนำก็เห็นจะเป็น ชีสฟองดู เพราะฟุราโนะเป็นเมืองแห่งชีส แนะนำ set B สำหรับคนที่ทานเนื้อ จะได้เสต็กเนื้อ Sirloin นำเข้าจากออสเตรเลีย (อยากได้สเต็กเนื้อของฟุราโนะก็ได้นะ แพงกว่ากันอีกนิดหน่อย) ในเซทนี้จะนำมาก่อนด้วยชีสฟองดู เอาขนมปังจุ่มชีสร้อนๆ ใส่ปาก จากตอนแรกไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ น้ำย่อยนี่พรั่งพรูเลยทีเดียวเชียว ตามมาติดๆด้วยเสต็กเนื้อ และข้าว คนชอบทานเนื้อบอกเลยว่าฟินมาก เนื้อย่างมาไม่สุกมาก เหนียวนิดๆกำลังพอดี ปิดท้ายด้วยกาแฟหลังอาหาร ในราคา 2,538 เยน (รวมภาษีแล้ว) หากใครไม่ทานเนื้อก็จัดเป็น เสต็กหมูฟุราโนะมาก็ได้
เปิดฝาาา ชีสฟองดู
เยิ้มๆๆ เอาขนมปังจิ้มๆ
เสต็กเนื้อของเราวันนี้
อิ่มแล้วออกมาหน้าร้านอย่าลืมถ่ายรูปกับเมืองนากาฟุราโนะด้านล่างเน้อ วันที่ฟ้าเปิดละก็ วิวใช้ได้เลยทีเดียว เสียดายว่าวันที่ไปนี่ฟ้าครึ้มๆ ยังดีว่าฝนไม่ตก ถ้าฝนตกละก็แย่เลย
บรรยากาศเมืองเต็มไปด้วยธรรมชาติ ดูแล้วสบายตา สดชื่นมาก
Furano Wine House – Blue Pond (33km)
ท้องอิ่มแล้วเราก็ไปต่อกัน Blue pond จาก wine house ย้อนกลับมาผ่านโทมิตะฟาร์มอีกครั้งหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังเมือง บิเอ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็จะมาถึง บ่อน้ำสีฟ้า อันโด่งดังของเมืองนี้ จอดรถเสร็จสรรพก็ลงไปถ่ายรูปกัน ที่นี่หากอยากมาถ่ายรูปสวยๆให้มาตอนหน้าหนาว จะได้ภาพของบ่อน้ำสีฟ้า โดยมีหิมะที่ปกคลุมภูเขาด้านหลังเป็นแบคกราวนด์ แต่ไหนๆเรามาชมดอกไม้ที่ฟุราโนะแล้ว จะพลาดไม่มาบิเอได้อย่างไร
Blue Pond – Shikisai no Oka (22km)
เริ่มเหนื่อยกันหรือยัง ถึงที่สุดท้ายของวันนี้ละหละ ไปจบกันที่อีกสวนนึง สวนดังของเมืองบิเอเลยทีเดียว ขับไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะพบกับ Shikisai no Oka ที่นี่ก็เป็นสวนพาโนรามาอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้ฟาร์มโทมิตะเลยทีเดียว ทุ่งดอกไม้ไล่สีตัดกับเส้นขอบฟ้า ถ่ายรูปเพลินๆกันไปเลย เกือบลืมบอก ที่นี่สามารถเช่ารถขับชมภายในสวนได้ด้วย (ค่าเช่า 500 เยน) นอกจากนี้ยังมีอัลปาก้าน่ารักๆให้ชม หากหิวก็มีร้านอาหารอยู่ในสวน หรืออยากชิมเบาๆก็แค่ เมลอน (อีกแล้ว) ซอฟท์ครีม โคโรเกะ และข้าวโพดให้ทานกัน เสียดายว่าวันที่ไป ตรงกับวันหยุด ทำให้คนเยอะมากๆ ข้าวโพดหมดจ้า อดเลย T.T
ทุ่งดอกไม้ของ Shikisai no Oka ดูได้ยาวๆ ถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงเลยทีเดียว
Shikisai no Oka – Sapporo (157km)
ก่อนหมดวันนี้ ขอแนะนำว่าหากกลับซัปโปโรก็ควรเผื่อเวลา ไม่ควรออกเกินห้าโมงเย็น เพราะใช้เวลาขับกลับอีกราวๆสองชั่วโมงครึ่ง อย่าลืมว่าต้องขับขี่อย่างปลอดภัย รักษากฏจราจร หากแพลนว่าจะขับรถมา ควรศึกษากฏจราจรของญี่ปุ่นมาล่วงหน้า ตามชานเมืองต้องขับช้าๆ บนทางด่วน จริงๆได้แค่ 80 กม./ชม. แต่โดนคนญี่ปุ่นขับแซงกันรัวๆ เอาเป็นว่า ให้ปลอดภัยก็ขับตามกฎจราจรกันนะ จะได้เที่ยวได้สนุก ไม่เกิดปัญหาอะไร
สุดท้ายนี้ ไปถึงแต่ละจุดท่องเที่ยวสำคัญๆทั้งที อย่าลืมเก็บ special sticker ของ Trippino hokkaido แล้วถ่ายรูปแชร์กับเพื่อนๆน้าาา
เว็บไซต์ข้อมูลแต่ละสถานที่
Ohashi Farm
Farm Tomita
Furano Wine Factory
Blue Pond
Shikisai no Oka
.
.
แอพฯ เดียวเที่ยวฮอกไกโด♪
★โหลดฟรี โหลดเลย ★
iOS : http://goo.gl/Qf5daP
Android : http://goo.gl/AxcjHG
NEXT RECOMMEND
คอลัมน์ท่องเที่ยวฮอกไกโด
LATEST
Dec. 09 2024