COLUMN
Dec. 01 2015
Pure Time
เครื่องสำอางค์ Pure Time บริสุทธิ์ดุจธรรมชาติชุดนี้ เป็นเครื่องสำอางค์ที่มีส่วนประกอบของน้ำเลี้ยงจากต้นชิราคาบะ (白樺) หรือต้นเบิร์ช เป็นต้นไม้ที่เราจะเห็นได้ทั่วไปในฮอกไกโด และมีเฉพาะที่ฮอกไกโดเท่านั้น หากยังนึกไม่ออกละก็ เป็นไม้ที่มีลำต้นสีขาว สูงยาว เปลือกไม้จะลอกออกเป็นแผ่นๆ ได้ มีน้ำเลี้ยงซึ่งมีแร่ธาตุ และความหวานประกอบอยู่
(ภาพต้นเบิร์ช หรือต้นชิราคาบะ)
โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้ สกัดเอาน้ำเลี้ยงมาเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์มากกว่า 50% น้ำของต้นเบิร์ชนั้น นอกจากจะนำมาเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางค์แล้ว ยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำเชื่อมสำหรับให้รสหวาน หรือดื่มเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย
เนื่องจากมีแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินซี, ซาโปนิน ฟลาโวนอยด์ ฯลฯ ทำให้เครื่องสำอางค์ในตลาดส่วนใหญ่จะใช้ส่วนประกอบจากต้นเบิร์ชนี้ เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ของตนเอง การเจาะเอาน้ำของต้นเบิร์ชออกมาแต่ละครั้งมีช่วงเวลาเฉพาะ โดยสามารถเจาะเอาได้เฉพาะช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ก่อนหิมะละลาย ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในรอบปี เป็นช่วงที่เจ้าต้นนี้จะสูบน้ำที่ละลายจากหิมะเข้าสู่ลำต้นให้มากที่สุด เพื่อเตรียมตัวแตกใบใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุดในการเจาะเอาน้ำเลี้ยงของต้นนี้ จึงสามารถทำได้แค่ปีละครั้งเท่านั้นเองค่ะ
(ใครมาฮอกไกโด ต้องเคยเห็นเจ้าต้นเบิร์ชนี้แน่นอน)
กลับมาที่ตัวเครื่องสำอางค์กันนะคะ…
ผลิตภัณฑ์ของ Pure Time มี 3 ตัวในไลน์อัพนี้ โดยทั้ง 3 ตัว มีส่วนผสมของน้ำเลี้ยงต้นเบิร์ช (白樺樹液) มากกว่า 50% ผลิตแบบ All-Handmade ในทุกขั้นตอน โดยแต่ละตัวมีการบำรุงผิวที่แตกต่างกันไป คือ “ปรับสภาพผิว”, “บำรุงล้ำลึก” และ “ให้ความชุ่มชื้น” แก่ผิวหน้า 3 ตัว 3 Steps ค่ะ โดยทางเว็บไซต์ของ Puretime บอกเอาไว้ว่า แต่ 3 steps ก็จะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งตึง สว่างใส ชะลอริ้วรอย และเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติแท้ ที่มีส่วนผสมเฉพาะสิ่งที่จำเป็นแก่ผิวเท่านั้น
ขนาดและราคา
(Hand cream ขนาด 50g ราคา 2,500 เยน)
ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถซื้อได้ที่ร้านค้าในฮอกไกโด หรือสนามนิวชิโตเซะ (ฮอกไกโด) จะสะดวกที่สุด
มาลองดูประสิทธิภาพการใช้งานจริงกันนะคะ แอดมินเป็นคนผิวผสม และผิวแพ้ง่ายมากๆ มาที่ตัวแรกกันเลย
1) Lotion
เป็นตัวแรกที่ใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จ สำหรับ ปรับสภาพผิว ค่ะ ในเว็บไซต์บอกว่า เป็นโลชั่นนาโน ทาแล้วลื่นผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และช่วยปรับสภาพผิว พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้น เตรียมความพร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไป
(เนื้อโลชั่น)
ลักษณะเป็นขวดแก้วหนาดูทนทาน จับไม่ลื่นมือ เป็นขวดหัวปั๊ม ใช้งานง่าย ตัวน้ำโลชั่นเป็นน้ำใสๆมีความข้นเล็กน้อย กลิ่นราสเบอรี่อ่อนๆ สดชื่น ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์หรือกลิ่นน้ำหอมแรงๆ ได้กลิ่นแค่นี้ก็นี้ก็เริ่มเบาใจแล้วค่ะว่า ไม่น่าจะแพ้
วิธีใช้ — ตามคู่มือ บอกให้กดประมาณ 5-7 ปั๊ม แล้วทาทั่วหน้า แต่ลองใช้มา แค่ 3 ปั๊ม ก็คิดว่าเกลี่ยได้ทั่วหน้าแล้วล่ะค่ะ
ตอนทารู้สึกว่าได้ว่าซึมเข้าไปในผิวได้ดี แต่เนื่องจากตัวน้ำโลชั่นมีความข้นเล็กน้อย จึงต้องรอให้ตัวน้ำซึมเข้าผิวสัก1นาทีก่อน ก่อนที่จะทาครีมบำรุงตัวต่อไป ใน 3 ไลน์อัพนี้ชอบตัวนี้ที่สุดค่ะ รู้สึกว่าน้ำโลชั่นมีความข้นที่กำลังพอดี บวกกับกลิ่นราสเบอรี่อ่อนๆ แบบธรรมชาติ ชอบมากเลยค่ะ
2) Essence
เป็นตัวที่ทาต่อจากตัว Lotion ช่วย บำรุงลึก ถึงรูขุมขน ให้ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ พร้อมเก็บความชุ่มชื้น
(เนื้อโลชั่น Essence)
ลักษณะเป็นขวดแก้วและหัวปั๊มที่ใช้งานง่ายเหมือนตัว Lotion ทรงขวดเพรียวดูน่ารักดีค่ะ
ตัว Essence นี้ ตัวน้ำเป็นสีเหลืองน้ำผึ้ง ลักษณะน้ำจะข้นกว่าตัว Lotion มาอีกระดับ กลิ่นเป็นกลิ่นธรรมชาติคล้ายๆ เปลือกไม้ หลายคนอาจจะไม่ถูกใจกลิ่นแบบนี้ แต่ส่วนตัวแล้วชอบกลิ่นแบบธรรมชาติ ก็เลยชอบค่ะ
วิธีใช้ — ประมาณ 2 ปั๊ม แล้วเกลี่ยทั่วหน้า
ตัวน้ำค่อนข้างข้น แค่ 2 ปั๊มก็ทั่วหน้าแล้ว เวลาทาต้องรอเวลาให้ซึมเข้าผิวสักพัก แต่ถือว่าซึมเข้าผิวได้ดีเลย รู้สึกได้รับการบำรุงจริงๆ หน้ารู้สึกวิ้งๆ ด้วยค่ะ
3) Cream
เป็นตัวสุดท้ายที่ทาหลังจากทา Lotion และ Essence ค่ะ ตัวนี้ช่วยเรื่อง ความชุ่มชื้น และปรับผิวให้สว่างค่ะ
(เนื้อครีม)
ลักษณะเป็นกระปุกแก้วทนทานดีค่ะ เพราะทำหลุดมือมารอบหนึ่งยังไม่แตกค่ะ ฮาๆ ตัวเนื้อครีมเป็นสีขาวครีมข้น กลิ่นเหมือนกับตัว Essence
วิธีใช้ — จะเหมือนทาครีมทั่วไป แต่แนะนำว่าอย่าทาเยอะ เพราะว่านิดเดียวก็จะเกลี่ยทั่วหน้าแล้วค่ะ
เห็นเนื้อครีมข้นๆ ตอนทารู้สึกไม่หนักหน้าเลย แต่ต้องทาไว้สักพักให้ครีมทั้งหมดเซตตัวก่อน ก่อนที่จะลงกันแดด หรือแต่งหน้าต่อไปนะคะ พอทาตัวนี้แล้วรู้สึกหน้าพร้อมแต่งหน้าแล้วค่ะ
หลังจากแอดมินใช้มาได้ 1 สัปดาห์ รู้สึกว่าหน้าไม่แพ้เลย และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากๆ แต่งหน้าติดง่ายขึ้น และหน้าไม่แห้งตลอดวันเลยค่ะ แต่ก็อาจมีบ้าง ถ้าหากคนหน้ามันใช้ อาจจะเหนอะระหว่างวัน เนื่องจากเป็นครีมจากเมืองหนาว ที่ต้องเพิ่มประสิทธิภาพความชุ่มชื้นขึ้นกว่าครีมบ้านเรา อาจจะใช้แค่ตัว Lotion และ Essence ก็ถือว่าเพียงพอในช่วงเวลากลางวัน ส่วนครีมกระปุกสุดท้ายนั้น ใช้ทาก่อนนอน หรือเวลานอนห้องแอร์ก็ได้นะคะ
ข้อดี
ข้อเสีย
แถมอีกนิด
นอกจากนี้ยังมี Hand cream อีกตัว พอดีตัวนี้ได้มาเป็นแบบเทสเตอร์ค่ะ
เนื้อครีมสีขาวข้น มีกลิ่นราสเบอรี่อ่อนๆ คล้ายๆ ตัว Lotion เลยค่ะ ทาแล้วรู้สึกไม่เหนอะหนะและยังมีกลิ่นราสเบอรี่อ่อนๆเหลือไว้อีกด้วย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้น ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบทา Hand cream แต่พอได้ลองใช้ ก็อยากทำให้อยากใช้ Hand cream บ่อยมากขึ้นเลยค่ะ
ใครมีโอกาสมาเที่ยวฮอกไกโด ก็อย่าลืมสินค้า OTOP จากธรรมชาติ ทำมือแท้ๆ แบบ Made in Hokkaido จากท้องถิ่นอย่าง PURE TIME นะคะ สินค้าอาจจะหายากนิดหน่อย เพราะผลิตได้ในแต่ละปีไม่มากนัก จะซื้อฝากญาติ ฝากแฟน หรือซื้อใช้เองก็น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ
หาซื้อได้ที่
ฮอกไกโด
สนามบินชิโตเสะ ร้าน Craft Studio
http://www.new-chitose-airport.jp/ja/spend/shop/s43.html
คิตะมุระ ออนเซ็น
http://www.kitamuraonsen.com/index.html
ร้าน ainz-tulpe สาขา le trois
http://ainz-tulpe.ainj.co.jp/shop/hokkaidou/139.html
โจซังเค ชิคะโนะยุ ออนเซ็น
http://www.shikanoyu.co.jp/english/index.html
โตเกียว
ร้าน ainz-tulpe สาขา ชินจุกุ
http://ainz-tulpe.ainj.co.jp/shop/th_kt/140.html
ร้าน ainz-tulpe สาขา โตเกียว
http://ainz-tulpe.ainj.co.jp/shop/th_kt/044.html
—————————————————————-
รายละเอียดเพิ่มเติม
LATEST
Dec. 13 2024