COLUMN
Sep. 10 2015
เช้านี้ตาขวางๆ เห็นอะไรขัดหูขัดตา ปวดหัวตึบๆ คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มวันยังไงดี เหมือนขาดอะไรไปอย่าง อาการแบบนี้ หลายคนที่เป็นคอกาแฟคนรู้ดี ไม่มีอะไรดีไปกว่ากาแฟสักแก้วก่อนเริ่มวันนั่นเอง…
สาวกกาแฟ ไปเที่ยวญี่ปุ่น ทำไงดีล่ะ ครั้นจะพกเซตกาแฟไปชงเองก็กระไรอยู่ หรือคิดว่าจะตามหาร้านกาแฟซื้อกินขำๆ ข้างทาง แล้วจะมีเหรอ? เข้าร้านใหญ่ๆ เลยไหม? หรือจะไปหากาแฟในร้านสะดวกซื้อก็มีมากมายสารพัด แต่ฉลากมีแต่ภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก ซื้อได้อันไม่ถูกใจก็ อาจจะพาลหงุดหงิดอีก
วันนี้เราอยากแนะนำ “กาแฟดริปสด” แบบตู้กดในร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่น ที่พึ่งนิยมกันไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเจ้าตู้กาแฟดริปสดนี้จะมีอยู่ในหลายๆ ร้านสะดวกซื้อทั่วไปในญี่ปุ่น และที่สำคัญ ราคาถูกมาก คือประมาณ 100-180 เยน (ประมาณ 29 บาท〜)ขึ้นอยู่กับขนาด
วิธีซื้อจะคล้ายๆ กัน คือ ถ้าเป็นกาแฟร้อน ให้เดินไปบอกพนักงานได้เลยว่า “ฮ็อตโตะ โคฮี” (Hot Coffee) จากนั้นจะได้รับแก้วกระดาษ และให้จ่ายเงินก่อนนะ แต่นี้ก็ไปกดที่เครื่องได้เลย ถ้าไม่อยากพูดญี่ปุ่น ก็พูดภาษาอังกฤษก็ได้นะ
ส่วนกาแฟเย็น ไม่ต้องพูดอะไรกับพนักงานก็ได้ เหมาะสำหรับคนขี้อาย ดังนั้นให้เดินไปบริเวณตู้แช่น้ำแข็ง จะเจอแก้วใส่น้ำแข็งเปล่า แช่ไว้อยู่ ให้หยิบมา แล้วมาจ่ายเงินก่อน จากนั้นไปกดที่เครื่องได้เลย อย่าลืมแกะพลาสติกออกก่อน บางทีเราอาจคิดว่าญี่ปุ่นไฮเทค เครื่องจะแกะให้เรา… ไม่นะจ๊ะ อย่าปล่อยไก่
ความจริง ซื้อไม่เป็นก็สามารถขอพนักงานช่วยทำให้ก็ได้ ซึ่งพนักงานญี่ปุ่นเต็มใจแน่นอน
เราขอยกตัวอย่างมาให้ 3 ที่ มาลองดูกันว่าทำยังไง
1) 7-eleven
มีมุมที่เรียกว่า Sever Cafe ที่มีกาแฟจำหน่ายในราคา 100 Yen (Regular), 150 Yen (Large) สำหรับกาแฟร้อน และ 100 Yen (Regular), 180 Yen (Large) สำหรับกาแฟเย็น กาแฟจาก เซเว่น ญี่ปุ่น เคลมว่าให้กลิ่นหอม รสชาตินุ่มลึก และชงดริปให้แก้วต่อแก้วอย่างดี
7-Eleven ที่คุ้นตาสำหรับชาวไทย
เรามาลองซื้อกาแฟร้อนกัน ง่ายๆ สำหรับกาแฟร้อน ก็อย่างที่บอกไป เดินไปบอกพนักงานที่เคาท์เตอร์ว่า Hot Coffee บอกขนาดไปว่า Regular (ปกติ) หรือ Large (ใหญ่) จากนั้นก็จะได้แก้วกระดาษมาใบหนึ่ง จับเข้าเครื่อง และกดปุ่มกาแฟตามขนาดได้เลย (วันนี้เลือก Regular)
กดปุ่ม “R” เสร็จ ก็รอแปป อย่าใจร้อน เพราะกาแฟที่นี่จะเริ่มบดเมล็ดก่อน จะได้ยินเสียงบดเหมือนร้านกาแฟ แล้วเครื่องจะค่อยๆ พ่นน้ำร้อน และดริป ให้เราอย่างช้าๆ ให้ดูแถบที่หน้าเครื่อง ถ้ามันเสร็จจะมีสัญญาณบอก พอเสร็จแล้วก็ดึงกาแฟออกมา เติมนม, น้ำตาลได้ตามชอบ ชงร้อนก็ให้เติมน้ำตาลเม็ด แต่ถ้าเลือกเย็นก็เติมน้ำเชื่อมเอานะ
เสร็จเรียบร้อย
2) Lawson
ที่ Lawson จะเรียกว่า Machi cafe มีตู้กดคล้ายๆ กันกับของเซเว่น เราแอบไปส่องเว็บ Lawson เห็นว่าใช้เมล็ดกาแฟจาก 5 ประเทศมาเบลนรวมกัน และใช้เมล็ดกาแฟแยกระหว่างกาแฟดริปร้อน กับดริปเย็นจ้า
ร้าน Lawson ที่คุ้นเคย
ที่นี่มีกาแฟดริปสด ราคาถูกกว่าเซเว่นลงมาหน่อยสำหรับไซส์กลาง แต่เริ่มต้นราคาเท่ากัน อยู่ที่ 100 Yen (S), 150 Yen (M) ทั้งกาแฟร้อนและเย็น เรียกชื่อไซส์ต่างกันซะงั้น
เครื่องชงกาแฟของ Lawson
หน้าตาเครื่องก็ไม่ต่างกันมาก วิธีสั่งก็เหมือนเดิม คือเดินไปบอกพนักงาน ว่าจะเอา Hot coffee หรือ Ice coffee จากนั้นก็บอกขนาด S หรือ M แล้วก็จะได้แก้วมา ถ้าแบบเย็นก็ลองเดินไปหาถ้วยน้ำแข็งในตู้ได้เลย หรือไม่ชัวร์จริงๆ บอกพนักงานไปเลย เดี๋ยวเขาก็ไปหยิบมาให้จ้า
กดเลือกกาแฟตามไซส์ที่หยิบมาได้เลย อันนี้ของลองเป็นแบบเย็นดู
ไม่ต้องห่วงว่าจะล้น เพราะให้มาแค่นี้เพื่อกันกาแฟหก
จากนั้นก็เติมนม น้ำตาล หยิบหลอด หยิบฝาครอบได้ตามใจได้เลย เอาพอประมาณนะ ปกติถ้าใส่ก็จะใส่ นม 2 น้ำตาล 1 ก็จะไม่หวานมาก แล้วก็เข้มขัน หวานมัน พอดีๆ เลย แต่วันไหนอยู่ในช่วงไดเอ็ท ก็กาแฟดำ ขม เข้มข้น ตาสว่าง พร้อมเที่ยวแบบนี้ได้เลย
ปริมาณกาแฟประมาณนี้ อย่าคิดว่าเครื่องเสีย ให้ไม่เต็มล่ะ ฮ่าๆ
มีมุมชื่อ Fast Relax Cafe และเพื่อนๆ อาจจะเจอตู้ต่างกัน แล้วแต่สาขา แต่ไม่ต้องห่วง วิธีการเหมือนกัน ตู้แบบใหม่ราคาเริ่มต้นไซส์ปกติยังเป็นมิตร อยู่ที่ 100 Yen (R), 150 Yen (L) สำหรับกาแฟร้อน และ 120 Yen (R), 150 Yen (L) สำหรับกาแฟเย็น
ตู้แบบใหม่
ตู้แบบใหม่นี้ ทางร้านเขาบอกว่า เราจะได้ดื่มด่ำตั้งแต่เสียงการบดเมล็ดกาแฟ กลิ่นหอมระหว่างการทำ และสุดท้ายคือรสชาติการแฟที่มีความขม เปรี้ยว และเข้มข้นกันอย่างลงตัวเลยนะ
Circle K Sunkus ป้ายหน้าตาแบบนี้ หรือบางทีอาจเป็นตัว “K” ใหญ่ๆ มีวงกลมล้อมรอบ
ตรงไปตู้แช่เลย จะเจอกองถ้วยน้ำแข็งแบบนี้ เลือกหยิบได้ตามขนาดที่ต้องการ
หน้าตาตู้ของร้านนี้ ทำแบบเดียวกันเลย คือ แกะพลาสติกด้านบนแก้วออก ใส่แก้วเข้าเครื่องด้านล่าง แล้วกดเลือกกาแฟตามขนาดที่เลือกมา แล้วก็รอๆๆ ตู้นี้ค่อนข้างนานหน่อย อาจเพราะว่าเขาพิถีพิถันชงหรือเปล่านะ ถ้าไม่เสร็จมันจะไม่ยอมปลดล็อคให้เราเอาแก้วออกได้
ตู้แบบเก่า
มาที่ตู้แบบเก่าบ้าง จะมีไซส์เดียว คือแบบปกติ ราคา 100 yen สำหรับกาแฟร้อน และ 120 yen สำหรับกาแฟเย็น อันนี้พอสั่งกาแฟแล้ว จะได้กระปุกกาแฟเล็กๆ มาอีกอันหนึ่ง ให้วางแก้วในที่วาง ใส่กาแฟด้านบน แล้วค่อยกดปุ่มให้เครื่องทำงาน
Set ที่ได้รับเมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว
เปิดฝาฉีกพลาสติกออก→วางแก้ว→ใส่กาแฟ→แล้วกดปุ่มทำกาแฟเลย (แดง=ร้อน, น้ำเงิน=เย็น)
สำเร็จ !!
จาก 3 ร้านข้างต้น ทางเรา และสตาฟคนญี่ปุ่นลองชิมแล้ว เห็นว่ารสชาติอร่อยมากๆ พอๆ กัน เพราะใช้เมล็ดกาแฟอย่างดี และเครื่องชงที่มีมาตรฐาน อย่าลืมว่าชาวญี่ปุ่นชอบดื่มกาแฟมาก ดังนั้นร้านสะดวกซื้อแต่ละที่จะแข่งขันกัน เพื่อให้ได้กาแฟที่ดีที่สุดออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในราคาที่แสนถูก คือเริ่มเพียงแค่ประมาณ 29 บาท/แก้ว เท่านั้นเอง ถูกและดีแบบนี้ ต้องบอกต่อ!
สำหรับคอกาแฟดริป กาแฟดำ ใครที่ขาดกาแฟไม่ได้ หรือตื่นไม่ทันกาแฟช่วงอาหารเช้าของโรงแรม อยากประหยัดงบ ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด ใกล้ไหนไปนั่นได้เลยจ้า
Discover Cool Things ! … Trippino HOKKAIDO
NEXT RECOMMEND
May. 132022
Mar. 202017
คอลัมน์ท่องเที่ยวฮอกไกโด
LATEST
Nov. 21 2024