COLUMN

Sep. 08 2017

จัดเต็ม ’13’ จุดชมใบไม้แดงแนะนำใน ‘ฮอกไกโด’

 

ฤดูที่มาไว ไปไว ที่สุดคงหนีไม่พ้นฤดูใบไม้ร่วง หรือที่หลายๆ คนพูดติดปาก ว่าฤดูใบไม้แดง จริงๆ แล้ว อย่างที่ทราบกันดีคือ ในฤดูนี้อากาศจะเริ่มเย็นลง ประมาณฤดูหนาวของเมืองไทย อากาศแบบแถวบนดอยทางภาคเหนือของไทย และทีเด็ดในฤดูนี้ก็คือ ต้นไม้ในเมืองหนาวอย่างฮอกไกโดนี้ ก็จะเริ่มผลัดใบ โดยการเปลี่ยนจากสีเขียวในฤดูร้อนเป็น สีเหลือง สีส้ม น้ำตาล และร่วงหล่นไปเพื่อลดการคายน้ำ และรอรับฤดูหนาวที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน

ฮอกไกโด เป็นเกาะที่มีสภาพอากาศในแต่ละฤดูอย่างชัดเจน จะร้อนก็ร้อนสุด หนาวก็หนาวสุดขั้ว และใบไม้แดงก็แดงสุดเช่นกันครับ โดยใบไม้แดงนี้ จะเริ่มแดงตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน บนยอดเขา และลามลงมาบริเวณเมือง จนถึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน  เลยทำให้ช่วงเวลาใบไม้แดงนี้ เป็นเวลาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกช่วงเวลาหนึ่งเลยเช่นกันครับ

เอาล่ะ เกริ่นไปแบบนี้แล้ว  มาดูกันดีกว่าว่าจุดชมใบไม้แดง เด็ดๆ ที่เราแนะนำในฮอกไกโดมีที่ไหนบ้าง มาดู 13 จุดชม ที่เราเลือกมาให้ว้าวกันครับ

.

.

13. ทะเลสาบโนโทโระ

ตื่นตาไปกับต้นซังโกโซ ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสุดลูกหูลูกตา ในทะเลสาบโนโทโระ แห่งเมืองอาบาชิริ  ซึ่งต้นซังโกโซ เป็นพื้นที่ขึ้นในบริเวณที่เป็นที่ราบลุ่มน้ำเกลือ และเป็นเมืองหนาว มีลักษณะต้นเป็นปล้องสั้นประมาณ 20 เซนติเมตร ไม่มีใบ พอถึงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะเปลี่ยนสี เป็นสีแดงทั่วทั้งทะเลสาบ และชนิดนี้หาได้เฉพาะในแถบนี้ด้วย

เมือง : Abashiri
การเดินทาง : จาก JR Abashiri นั่งบัส 20 นาที
ช่วงพีค : กลาง-ปลาย เดือนกันยา


.

12. เขื่อนโฮเฮเคียว

เขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ในเขตหมู่บ้านโจซังเค เมืองซัปโปโร เพื่อนๆ จะฟินไปกันวิวเขื่อน และต้นไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นแซมตามภูเขาหิน สามารถเดินเล่นบริเวณเขื่อน หรือนั่งรถทัวร์รอบเขื่อนได้ และยังมีโรปเวย์เล็กๆ ให้ขึ้นชมวิวจากมุมสูงด้วยครับ

เมือง : โจซังเค
การเดินทาง : จาก Sapporo นั่งบัส ประมาณ 1 ชั่วโมง
ช่วงพีค : ปลายกันยา – กลางตุลา


.

11. ศาลาว่าการเก่า เมืองซัปโปโร

ใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วย  กับฉากของสถาปัตยกรรมอันสวยงามของศาลาว่าการเก่า เป็นอีกจุดที่ต้องแวะมาเยือนเนื่องจากเดินทางสะดวก แต่รู้สึกร่มรื่นอย่างบอกไม่ถูก นอกจากต้นแปะก๊วยแล้ว ยังมีการจัดแปลงดอกไม้หมุนเวียนกันตลอด หากอยากชิล ก็สามารถแวะไปเดินเล่นแถวสระบัวข้างได้เหมือนกัน

เมือง : ซัปโปโร
การเดินทาง : เดิน 10 นาที จาก สถานี Sapporo
ช่วงพีค : ปลายตุลา- ต้นพฤศจิกา


.

10. โจซังเค ออนเซ็น

กลับมาที่เมืองโจซังเค เมืองออนเซ็นใกล้ซัปโปโรแค่ 1 ชั่วโมงแห่งนี้ เขามีทีเด็ดในช่วงใบไม้เปลี่ยนดีครับ กับการที่เป็นป่า และมีต้นไม้เยอะ ทำให้พวกมันพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีแดง และด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีทางเนิน มีแม่น้ำ จึงช่วยส่งให้วิวของที่นี่สวยงาม พลาดไม่ได้กับการแช่ออนเซ็นกลางแจ้งชมใบไม้แดง ทานอาหารอร่อยๆ ที่โรงแรมจัดไว้ ลองมาพักที่นี่สักคืนหนึ่ง เหมือนเติมพลังชีวิตให้ตัวเองเลย

เมือง : โจซังเค
การเดินทาง : จาก Sapporo นั่งบัส ประมาณ 1 ชั่วโมง
ช่วงพีค : ต้น – กลางตุลา


.

9. ภูเขาโมอิวะ

ภูเขาใกล้เมืองซัปโปโรมากๆ โดยสามารถขึ้นมาชมวิวเมืองพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างพร้อมๆ กัน ไฮไลท์อยู่ที่การนั่งกระเช้าโรปเวย์ขึ้นมาจากด้านล่าง แล้วเราจะค่อยๆ เห็นใบไม้เปลี่ยนสีจากจำนวนไม่มาก จนกลายเป็นทุ่งสีแดงสวย ตามระดับความสูงที่โรปเวย์พาขึ้นไป ด้านบนยังมีจุดชมวิว มีร้านอาหาร ร้านของที่ระลึกให้แวะกันได้ด้วย

เมือง : ซัปโปโร
การเดินทาง : จาก Sapporo นั่งรถรางลงสถานี Ropeway iriguchi และขึ้นบัสฟรีไปลงสถานีกระเช้า
ช่วงพีค : กลาง – ปลายตุลา


.

8. ทะเลสาบอะคัง

ทะเลสาบอะคัง อาจไม่คุ้นหูมากนัก แต่ถ้าพูดถึงสาหร่าย “มาริโมะ” ละก็ ต้องร้องอ๋อกันแน่นอน เพราะทะเลสาบอะคังเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวในโลกที่มีสาหร่ายก้อนกลมๆ มาริโมะนี้ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี พลาดไม่ได้กับน้ำใสบริสุทธิ์ และโรงแรม เรียวกัง ต่างๆ สำหรับแช่ออนเซ็นรอบๆ เงียบสงบอย่างมาก จุดที่มีชื่อเสียงในทะเลสาบคือ บริเวณน้ำตก ทาเคมิบาชิ (takemibashi) ซึ่งเป็นจุดที่น้ำจากทะเลสาบ ไหลลงสู่แม่น้ำอะคัง มีแรงน้ำปะทะหิน สีของใบเมเปิ้ลสีแดงก่ำ ตัดคอนทราสกับสีเหลืองทองของอีกต้น กลายเป็นความสวยงามของการชมใบไม้แดงอย่างที่สุด

เมือง : อะคัง
การเดินทาง : จาก JR Kushiro นั่งบัสต่อ 2 ชั่วโมง
ช่วงพีค : ต้น – กลางตุลา

 


.

7.  สวนโอโดริ

สวนสาธารณะกลางเมืองซัปโปโร แห่งนี้สนุกได้ในทุกฤดูจริงๆ แม้แต่ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่ทุกๆ ต้นในสวนพร้อมใจกันเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สีแดง อย่างสวยงาม นอกจากความงามของธรรมชาติแล้ว ในเดือนกันยายน ที่นี่จะจัดเทศกาลอาหารอร่อยแห่งฤดูใบไม้ร่วง หรือ Sapporo Autumn Festival ที่คัดสรรอาหารอร่อยๆ มาให้ชิมกันถึงกลางเมือง นอกจากอิ่มตาแล้ว ยังอิ่มท้องอีกด้วย

เมือง : ซัปโปโร
การเดินทาง : จาก Subway Odori ทางออก Odori park
ช่วงพีค : กลาง – ปลายตุลา
เทศกาลมี : 8-30 ก.ย. 2017
web : http://www.sapporo-autumnfest.jp/

 


.

6. สวนทากิโนะอุเอะ

เมืองเมล่อนอร่อย “ยูบาริ” กับจุดชมใบไม้แดงชื่อดัง ที่สวนทากิโนะอุเอะ ตั้งอยู่ข้างแม่น้ำยูบาริคาวะ เราจะได้เห็นแนวใบไม้แดงทอดยาวไปตามสองข้างทางของแม่น้ำ มีแนวหินอันสวยงาม และใบไม้แดงที่เข้ากันได้ดีกับสะพานสีแดง ในบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะกับผู้รักธรรมชาติอย่างจริงจัง

 

เมือง : ยูบาริ
การเดินทาง : จาก Sapporo ขับรถประมาณ 1:30 ชั่วโมง
ช่วงพีค : ต้น – กลางตุลา

 


.

5. ลานสกีซัปโปโร โคคุไซ

พูดถึงว่าเป็นลานสกี ก็อาจจะงง เพราะที่นี่เปิดเป็นลานสกีในฤดูหนาว แต่ก่อนจะถึงฤดูหนาว ลานสกีโคคุไซ เป็นอีกหนึ่งจุดลับ ที่สามารถมาชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างสวยงาม โดยเราจะได้นั่งลิฟท์กอนโดล่า ชมความงามสองข้างทางของใบไม้เปลี่ยนสี และเมื่อถึงบนยอด สามารถมองยาวๆ ไปเห็นถึงเมืองซัปโปโร และอ่าวอิชิคาริได้ครับ ที่สำคัญที่นี่ยังมีงานเทศกาลใบไม้ร่วง มีกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมเล่นกันด้วย

เมือง : โจซังเค
การเดินทาง : จาก Sapporo นั่งบัส ประมาณ 1 ชั่วโมง
ช่วงพีค : ต้น – กลางตุลา
เทศกาลมี : 23 ก.ย. – 15 ต.ค.
ลานสกีเปิด : 9:30 – 15:30

 

 


.

4. ยอดเขาอาซาฮีดาเกะ 

ยอดเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด และเป็นจุดที่ใบไม้เปลี่ยนสีเร็วที่สุดในญี่ปุ่น บนยอดเขามีทางเดินทางธรรมชาติ ให้เดินเล่น ถ่ายรูปกันได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่น คือ เป็นการเปลี่ยนสีของพันธุ์ไม้ที่เติบโตบนที่ราบสูง  จะเห็นได้ว่าเป็นต้นที่มีขนาดไม่สูงมาก และมีสีส้ม แดง น้ำตาลเป็นพุ่มหย่อมสลับกันไป หากใครอยากฟินเพิ่ม แนะนำให้หาออนเซ็นบริเวณตีนเขา เข้าแช่แบบเดย์ทริป ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่อ ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยครับ

เมือง : ฮิงาชิคาวะ
การเดินทาง : จาก JR Asahikawa นั่งบัสประมาณ 1:30 ชั่วโมง (มีวันละ 4 เที่ยว)
ช่วงพีค : กลาง – ปลายกันยา

 

 


.

3. สวนมารุยามะ

สวนสาธารณะ อีกแห่งในเมืองซัปโปโร สถานที่ที่อยู่ติดกับ ศาลเจ้าฮอกไกโด และ สวนสัตว์มารุยามะนั่นเองครับ โดยการจะไปทั้งสองแห่งที่บอกไปนั้น ยังไงแล้วต้องเดินผ่านสวนนี้แน่นอน ที่นี่นอกจากจะเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ยังถือเป็นจุดชมในไม้แดงที่สวยงามใกล้เมืองอีกจุดด้วย ด้วยความที่อยู่ติดกับภูเขาโมอิวะ ทำให้มีต้นไม้ใหญ่มากมาย พอเข้าไปแล้วเนี่ย เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งแน่นอนครับ หากโชคดีอาจได้เห็นกระรอกเจ้าถิ่น วิ่งไปมา ออกมาต้อนรับด้วยนะ

เมือง : ซัปโปโร
การเดินทาง : จาก Subway Maruyama เดินประมาณ 5 นาที
ช่วงพีค : กลาง – ปลายตุลา

 

 


.

2. สวนนากาจิมะ

อีกหนึ่งสวนยอดนิยม ในการชมใบไม้แดง ด้วยความที่มีอ่างเก็บน้ำอยู่ตรงกลางสวน ทำให้มีความโรแมนติกไปอีก กับการถ่ายรูปใบไม้แดงสะท้อนกลับหัวเป็นเงาในน้ำ และยังมีแนวต้นแปะก๊วยยาวกว่า 10 เมตร ให้เดินชมยาวๆ  สวนนี้เดินทางสะดวกกว่าสวนมารุยามะ อันดับก่อน เพราะมีรถไฟใต้ดินไปโผล่ที่สวนเลยครับ หากใครไม่ชอบแบบป่าทึบ อึมๆ ดงดิบๆ กลัวโดนโฉบไป ก็แนะนำที่นี่เลย สวนนากาจิมะ รับรองว่าฟินกว่า ชัวร์

 

เมือง : ซัปโปโร
การเดินทาง : จาก Subway Najajima Koen เดินออกฝั่งสวนแล้วถึงเลย
ช่วงพีค : กลางตุลา – ต้นพฤศจิกา


.

1. มหาวิทยาลัยฮอกไกโด

จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ กับอุโมงค์ต้นแปะก๊วย ความยาวกว่า 380 เมตร กว่า 70 ต้นกับสีเหลืองสดของมัน เป็นอีกแห่งที่มีความงดงามในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี สามารถแวะเข้าชมได้ฟรี โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่อยู่ในช่วงพีค จะมีการจัดงานเทศกาล และเปิดไฟ light up เพื่อเป็นการชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงกลางคืนอีกด้วย

 

เมือง : ซัปโปโร
การเดินทาง : จาก Subway Kita 12 เดินประมาณ 5 นาที
ช่วงพีค : ปลายตุลา – ต้นพฤศจิกา

 


 

.

.

Discover Cool Things!

Trippino HOKKAIDO

LATEST

Dec. 09 2024

ทำอะไรดี? ที่ ‘ฮาโกดาเตะ’