COLUMN

Jun. 13 2017

ตู้ล็อคเกอร์แบบบาร์โค้ด ไม่ต้องพกกุญแจ ตัวเบาพร้อมเที่ยว


โอ้ยยย อยากเที่ยวก็อยากเที่ยว กระเป๋าก็หนัก จะเช็คอินโรงแรมก็ยังไม่ถึงเวลา  เชื่อว่าขาลุยทั้งหลายเคยเกิดอารมณ์ประมาณนี้ ไม่อยากจะเสียเวลาสักนิดไปกับการรอเชคอิน ในเมื่อมาถึงเมืองนั้นๆ ก่อนเวลาตั้งนานต้องใช้เวลาให้คุ้ม ทำไงดี,,,  แน่นอนว่าขาเที่ยวญี่ปุ่นต้องรู้จักกันดีกับตู้ล็อคเกอร์ฝากกระเป๋านั่นเองครับ โดยตู้พวกนี้จะอยู่ตามสถานีทั่วไป ที่ซัปโปโรก็มีที่สถานี JR Sapporo แบบเยอะมากกกก 

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก วันนี้  Trippino Hokkaido จะพามารู้จักกับเจ้าตู้ล็อคเกอร์นี้กันครับ ตู้จะมีหลายไซส์ หลายราคาให้เลือกกัน วิธีที่จะรู้ว่าของๆเราเหมาะกับตู้ไซน์ไหนนั้น ก็ง่ายๆเลย ลองเอาของใส่ แล้วลองปิดเล่นๆดูครับ ตู้ส่วนใหญ่จะนับเวลา 24 ชั่วโมงเป็น 1 วัน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะใช้กันประมาณวันเดียวนะครับ หรือบางทีก็ 3-4 ชั่วโมง เวลาแว๊บไปเที่ยว ไปช็อปต่อ ตู้ล็อคเกอร์ที่ว่านี้มีสองแบบ คือ แบบใช้กุญแจ กับแบบที่ใช้บาร์โค้ดในการเปิด  

 

❶ แบบใช้กุญแจเปิด

แบบที่ใช้กุญแจ จะเป็นแบบที่เค้าคุ้นตากันมานาน สังเกตตู้ง่ายๆเลย คือมีกุญแจติดอยู่ครับ โดยต้องใส่เงินให้ครบจำนวนหน้าตู้ แล้วจึงจะหมุนปิดตู้ได้  วิธีใช้ง่ายๆ คือ เมื่อเราใส่ของเข้าไปจัดให้เรียบร้อย ก็ใส่ได้เยอะอยู่นะ  พอจัดของเสร็จแล้วก็หยอดเหรียญจ่ายเงินให้ครบ แล้วปิดตู้ล็อคเกอร์ ดึงกุญแจเก็บไว้กับตัว (ปิดตู้ได้ครั้งเดียวนะครับ ถ้าเปิดอีกแล้วปิดใหม่ จะต้องเสียเงินใหม่)  แค่นี้เอง ก็ไปเที่ยวต่อลั้นลา แล้วค่อยกลับมาเอาของออกในตู้ที่ฝากไว้ได้ครับ

ตู้ล็อคเกอร์แบบใช้กุญแจ ตู้ว่างจะมีกุญแจเสียบอยู่


ใช้เหรียญ 100 yen หยดให้ครบราคาหน้าตู้ ก่อนปิด

 


❷ แบบใช้บาร์โค้ดเปิด

สำหรับใครที่ไม่ถนัดวิธีแรกที่แนะนำไป กลัวกุญแจจะหาย เพราะขี้เลืม ก็มีอีกวิธีนึงเป็นตู้แบบใช้บาร์โค้ดนะครับ ตู้นี้จะมีปะปนกันไปตามตู้แบบก่อน หน้าตาก็แบบในภาพ โดยจะไม่มีกุญแจเสียบคาอยู่ แต่จะมีตู้จ่ายเงินสำหรับควบคุมการทำงานอยู่ใกล้ๆครับ

วิธีการ
เลือกตู้ที่จะใส่ของ จากนั้นก็จัดของใส่ไปที่ตู้ล็อคเกอร์ กลับมาจ่ายเงินก็จะได้สลิปมา เก็บสลิปนี้ไว้ใช้ตอนจะมาเอาของ  ส่วนขั้นตอนการมาเอาของก็ไปที่ตู้แล้วสแกนสลิปที่ได้มาตอนแรก แล้วเลือกปลดล็อค ตู้ล็อคเกอร์มันจะปลดล็อก ทีนี้ก็เอาของออกมาแล้วเดินทางต่อได้เลย สะดวกสุดเลยใช่มั๊ยหล่ะ ใครถนัดแบบไหนก็เลือกใช้ได้เลย สะดวก ปลอดภัย
.

Tips  ข้อดีของตู้แบบนี้
ด้วยความที่มันเป็นสลิป เราสามารถถ่ายรูปเก็บไว้ได้ เพื่อให้สแกนผ่านมือถือเวลาสลิปหาย หรือส่งรูปให้เพื่อนฝากเปิดให้ได้  ตู้มีภาษาอังกฤษ และจ่ายด้วยบัตรเติมเงินต่างๆ ของญี่ปุ่นได้ครับ

 

2.1 อธิบายแบบรูปภาพ การฝาก ↓


หน้าตาตู้แบบใช้บาร์โค้ด

 

ก่อนอื่นลองใส่กระเป๋าเดินทาง

 

กลับมาที่ตู้ จ่ายเงิน(แตะบัตร) และกดเพื่อรับบาร์โค้ด

 

เก็บบาร์โค้ดไว้ใช้ตอนมาเอากระเป๋า (ถ่ายรูปไว้อีกทีก็ได้ กันหาย)

.

.

2.2 อธิบายแบบรูปภาพ การรับคืน ↓

ตอนมารับกระเป๋าต้องไปที่เครื่องเดิมนะครับ

ก็เอาสลิปสแกนแบบภาพตัวอย่าง (มีภาษาอังกฤษ สบายๆ)


สแกนบาร์โค้ดเพื่อให้ล็อกเกอร์ปลดล็อค จากนั้นประตูก็ดีดออกรับของได้


เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับขาช้อป หรือขาไหนที่หอบบ้านมาด้วย แต่อยากเที่ยวต่อ ก็ไปลองใช้บริการกันได้นะครับ

.

.

Discover Cool Things !

Trippino HOKKAIDO

 

LATEST

Dec. 13 2024

Day Trip เที่ยว 1 วัน : Asahikawa – Biei 2025