COLUMN
May. 20 2025
ฮอกไกโดในฤดูร้อนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ต่างจากภาพลักษณ์หิมะขาวโพลนที่หลายคนจดจำ กลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคมคือช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์ผลิบานเต็มที่ กลิ่นหอมละมุนลอยตามลมเย็นสบาย และวิวภูเขาเรียงซ้อนกับทุ่งสีม่วงกว้างใหญ่ ทำให้เราตัดสินใจจัดทริปแบบ “วันเดียวเที่ยวให้ครบ” ด้วยการขับรถจากซัปโปโรไป-กลับ ฟุราโนะและบิเอะ เมืองชนบทเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์
วันนี้เราจะพาเที่ยวแบบ เช่ารถขับเองจาก Sapporo ด้วยรถจาก Nissan Rent-a-Car ออกเดินทาง เวลา 7:30 น. เพื่อสัมผัสทุ่งลาเวนเดอร์ในฝันที่ Furano และวิวชนบทสุดโรแมนติกของเมือง Biei ก่อนจบทริปและคืนรถในเวลา 19:00 น.
เราเลือกเช่ารถกับ Nissan Rent a Car สาขาใกล้ Sapporo Station โดยนัดรับรถตอน 7:30 น. เช้าเพื่อออกเดินทางทันที การขับรถในญี่ปุ่นนั้นง่ายกว่าที่คิด ถนนดี ป้ายชัด และระบบ ETC ก็ช่วยให้ผ่านทางด่วนได้รวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาเข้าช่องจ่ายเงิน ซึ่งต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่เช่ารถว่าขอใช้บัตร ETC ด้วย
ใบขับขี่สากล คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทำได้ล่วงหน้าที่กรมขนส่งในไทย เตรียมเอกสารง่ายๆ ได้แก่ สำเนาใบขับขี่, บัตรประชาชน และรูปถ่าย 2 นิ้ว ไปที่สำนักงานขนส่ง ใช้เวลาทำไม่นาน และสามารถใช้ขับรถในญี่ปุ่นได้ 1 ปี
อุณหภูมิช่วงฤดูร้อนของฮอกไกโดอยู่ที่ประมาณ 22–27 องศาเซลเซียส กลางวันอากาศอุ่นแต่ไม่ร้อนจัด มีแดดแรงบางช่วง ส่วนกลางคืนจะเย็นลงเหลือราวๆ 15–18 องศา แนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาวบางๆ หมวกกันแดด และรองเท้าที่เดินสะดวกตลอดวัน
ฤดูร้อนในญี่ปุ่นอาจทำให้หลายคนกังวลเรื่องอากาศร้อนอบอ้าว แต่ถ้าเป็นที่ ฮอกไกโด (Hokkaido) คุณจะได้สัมผัสกับฤดูร้อนที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง — เย็นสบาย สดชื่น ไม่มีความชื้นมากเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ ในญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วง เดือนกรกฎาคม–สิงหาคม ที่เป็น “ไฮซีซั่น” ของดอกไม้และวิวธรรมชาติ
การขับรถออกจากซัปโปโรสู่ Furano จะใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง ผ่านทางด่วน Doō Expressway
แนะนำแวะจุดพักรถเช่น:
ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็มาถึง Farm Tomita สถานที่ไฮไลต์ของทริปนี้ ภาพแรกที่เห็นคือทุ่งลาเวนเดอร์อันสวยงาม กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยในอากาศ พร้อมวิวภูเขา Tokachi ด้านหลังเป็นฉาก เสน่ห์ของฟาร์มนี้ไม่ใช่แค่ทุ่งดอกไม้สีม่วงสด แต่คือ “การจัดวางทุ่งดอกไม้หลายสีในแนวนอน” ให้ดูเหมือนพรมลายธรรมชาติที่ทอดยาวสุดสายตา
เมืองฟุราโนะเริ่มปลูกลาเวนเดอร์ตั้งแต่ยุค 1950 เดิมทีเพื่อนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย แต่หลังจากทุ่งลาเวนเดอร์ใน Farm Tomita เริ่มได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวช่วงปี 1980 เมืองจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวฤดูร้อนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด
ขับต่อจาก Farm Tomita ประมาณ 45 นาที มุ่งหน้าไปเมืองบิเอะ ระหว่างทางเต็มไปด้วยทุ่งมันฝรั่ง ข้าวโพด และภูเขาที่เรียงรายบนเส้นขอบฟ้า บ้านชนบทไม้เตี้ยๆ กับถนนเล็กๆ สะอาดเงียบสงบเหมาะแก่การจอดรถแวะถ่ายรูปหลายจุด เช่น Mild Seven Hills
บ้านเมืองในบิเอะเรียบง่าย คล้ายบ้านไม้เตี้ยๆ มีทุ่งหญ้าอยู่ด้านหลัง ท้องฟ้ากว้าง และถนนเล็กๆ ที่ไม่เร่งรีบ ความสวยของที่นี่ไม่ใช่ความตื่นตาตื่นใจ แต่คือความสงบที่รู้สึกได้แม้จะเพียงผ่าน
จากบิเอะใช้เวลาขับประมาณ 30 นาที ก็มาถึง Ningle Terrace หมู่บ้านเล็กๆ สร้างจากไม้ซุงกลางป่าสน เป็นแหล่งรวมร้านคราฟต์งานฝีมือ เช่น การ์ดทำมือ เทียนหอม กระดาษญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงบ่ายแก่ๆ แสงแดดลอดผ่านต้นสน ทำให้ที่นี่ดูอบอุ่นโรแมนติกมาก
แม้ที่นี่จะเล็ก แต่เดินเพลินถ่ายรูปสนุก ถ้าอยากหาคาเฟ่หรือขนมกินเบาๆ ก็มีร้านกาแฟน่ารักๆ อยู่ด้านใน
อีก 20 นาทีจาก Patchwork Road เราแวะที่ Blue Pond (Aoi Ike) จุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของบิเอะ น้ำในสระเป็นสีฟ้าอมเขียวที่เกิดจากแร่อลูมิเนียมละลายในน้ำ ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ วิวสะท้อนต้นไม้แห้งที่โผล่พ้นน้ำทำให้ดูมีเสน่ห์ลึกลับ จุดนี้มีทางเดินเท้าให้เดินชมโดยรอบ ไม่ต้องปีนป่าย
ใกล้ๆ กันมีจุดพักรถเล็กๆ บริเวณ Shirogane Onsen ที่มีห้องน้ำสะอาด และร้านกาแฟให้แวะพักก่อนเดินทางกลับ
แนะนำให้เริ่มขับออกจาก Biei ไม่เกิน 16:30–17:00 น. เพื่อให้ถึงซัปโปโร เติมน้ำมันคืนให้เต็มถัง และคืนรถประมาณ 19:00 น. ระหว่างทางสามารถแวะจุดพักรถเช่นเดียวกับตอนขาไป หรือแวะทานมื้อเย็นเบาๆ ก่อนเข้าสู่ตัวเมือง
หากกำลังมองหาทริปสั้นๆ ที่ได้ทั้งสัมผัสธรรมชาติ ถ่ายรูปสวย และพักใจจากเมืองใหญ่ การขับรถเที่ยว Furano–Biei คือคำตอบที่ดีกว่าการนั่งรถไฟเที่ยว เพราะคุณจะได้สัมผัส “ระหว่างทาง” ที่งดงามพอๆ กับจุดหมาย
NEXT RECOMMEND
Sep. 072017
Dec. 252016
คอลัมน์ท่องเที่ยวฮอกไกโด
LATEST
Jun. 19 2025