COLUMN
Mar. 29 2020
.
.
“ยาคุโมะ” เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด อาจจะไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างสถานที่อื่นๆ ในฮอกไกโด แต่เมืองนี้เป็นอีกจุดที่สวยงาม เงียบสงบ และเปี่ยมล้นไปด้วยธรรมชาติ เหมาะสำหรับสายสโลว์ไลฟ์ และนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะสัมผัสวิถีชีวิตของชาวสวน ชาวประมงที่แท้จริง ชาวบ้านที่นี่ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนเมืองและนักท่องเที่ยว จึงถือได้ว่าเป็นอีกเมืองที่เปิดกว้างและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากๆ
นอกจากการเกษตรและการประมงที่เป็นจุดเด่นของเมืองนี้แล้ว ยังมีงานแกะสลักไม้เป็นรูปหมีที่เป็นของฝากขึ้นชื่อจากฮอกไกโด ซึ่งเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดของหมีแกะสลักนี้อีกด้วย ยาคุโมะเป็นเมืองเดียวในญี่ปุ่นที่เชื่อมต่อกับทะเลทั้งสองของญี่ปุ่น คือทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) และมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้เราสามารถชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ที่เมืองนี้
.
ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ อย่างที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วก็คือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ และงานฝีมือ ยกตัวอย่างเช่นหมีแกะสลักไม้ ที่กลายมาเป็นของที่ระลึกชื่อดังของฮอกไกโด ที่นอกจากจะสามารถซื้อไปฝากได้แล้ว เรายังสามารถลองแกะสลักไม้ได้เองด้วย
หรือผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งเมืองนี้ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่โดดเด่นเรื่องนี้ในทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด และเมื่อมาเยี่ยมเยือนที่เมืองนี้ ก็สามารถร่วมกิจกรรมการทำฟาร์มกับชาวชุมชนได้
อีกอย่างที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือหอยเชลล์ หอยเชลล์จากอ่าวฟุนกะนั้นมีขนาดใหญ่และมีรสชาติหวาน และเช่นกัน ทางเมืองยาคุโมะได้มีการจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองเพาะเลี้ยงหอยเชลล์กับชาวประมงที่นี่ด้วย
.
การเดินทาง
หากขับรถมาจากฮาโกดาเตะหรือทะเลสาบโทยะ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือหากเดินทางมาด้วยรถไฟ JR สายฮาโกดาเตะ ลงที่สถานียาคุโมะ (H54) ก็จะสามารถเข้าถึงตัวเมืองได้เลย สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากฮาโกดาเตะ ทะเลสาบโทยะ หรือโนโบริเบทสึ แนะนำให้ออกเดินทางหลังเที่ยงวัน แล้วมาพักค้างคืน 1 คืนที่ ยาคุโมะ
.
ที่พัก
Guest House SENTO
Guest House SENTO เป็นเกสต์เฮาส์ที่รีโนเวทจากอาคารเก่าอายุกว่าร้อยปี เปิดขึ้นมาเพราะต้องการให้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวกับชาวเมืองได้พบปะกัน และแนะนำให้รู้จักกับเมืองยาคุโมะผ่านเมนูอาหารท้องถิ่นต่างๆ เมื่อเข้าไปด้านในจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้พนักงานยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และยังมีสตาฟอาสาสมัครจากทั่วโลกมาอยู่ที่นี่ คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
.
อาหาร
.
.
อาหารท้องถิ่นที่มีเฉพาะที่นี่คือ “ฟุตะมิคาเร” หรือแกงกะหรี่ฟุตะมิ เป็นแกงกะหรี่สีขาวที่มีส่วนผสมของนมสดทำให้ตัวแกงกลายเป็นสีขาว และเพิ่มความอร่อยด้วยหอยเชลล์จากมหาสมุทรแปซิฟิกและหมึกยักษ์จากทะเลญี่ปุ่น พร้อมด้วยส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมาย ร้านที่มีเมนูฟุตะมิคาเรวางขายนั้นจะตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟ อย่างเช่นร้าน “มารุมิ”, “ฮาร์เวสเตอร์ยาคุโมะ”, “อิเซยะ”, และ “ฟุรันโดรุ”
.
ร้านอาหาร SENTO
.
เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับเกสต์เฮาส์ SENTO เมื่อเข้าไปนั่งทานในร้านแล้วจะได้ความรู้สึกเหมือนกับนั่งอยู่ในโรงอาบน้ำสมัยก่อน มีความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ เลย ในส่วนของอาหาร ส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้นั้นมาจากยาคุโมะโดยตรง ทำให้เราได้ลิ้มรสชาติของส่วนผสมจากท้องถิ่น เมนูแนะนำได้แก่ เนกิด้ง (ข้าวหน้าต้นหอมญี่ปุ่น โดยใช้ต้นหอมญี่ปุ่นจากยาคุโมะ), ชิโร่ยโอมุไรซ์ (โอมุไรซ์สีขาว ใช้ไข่ที่เป็นผลผลิตจากยาคุโมะ), ยาคุโมะพูทีน ( poutine อาหารแคเนเดียน ทำจากมันฝรั่งและชีส)
.
เอรุฟิน
เป็นร้านขายผลิตภัณฑ์จากนมที่บริหารโดยฟาร์มปศุสัตว์ท้องถิ่นโมโตยามะมานานกว่า 100 ปี โดยที่ร้านมีสินค้าที่ห้ามพลาดคือซอฟท์ครีม นมสด และไอศกรีม
.
.
กิจกรรมต่างๆ
ในเมืองยาคุโมะก็มี Experience Program ซึ่งเป็นกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลองเปิดประสบการณ์ลองทำกิจกรรมต่างๆ แบบชาวเมือง ทั้งการเกษตร การประมง และเรียนรู้วิถีชีวิตพื้นบ้าน โดยตัวอย่างกิจกรรมใน Experience Program มีดังนี้
แกะสลักหมีไม้
การแกะสลักหมีไม้นั้นอยู่คู่กับเมืองนี้มาอย่างยาวนาน การแกะสลักไม้ให้เป็นรูปหมีนั้นไม่ได้ยากเกินไปสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ไม่เคยทำมาก่อน หากมาทดลองแกะสลักไม้กับโปรแกรมนี้ก็สามารถนำพวงกุญแจรูปหมีที่เราแกะสลักเองติดตัวกลับบ้านได้
.
.
ผูกหอยเชลล์
ในฤดูใบไม้ผลิ ชาวเมืองจะมาช่วยกันผูกหอยเชลล์ตัวเล็กๆ เข้าด้วยกันด้วยเชือกแบบเฉพาะ เพื่อทำการเพาะเลี้ยงหอยเชลล์ เราจะได้สัมผัสประสบการณ์การเพาะเลี้ยงหอยเชลล์ และจะได้ลองชิม “เบบี้โฮตาเตะ” แบบสดๆ เลยด้วย
.
.
ทำโคมกระดาษ
ที่เมืองนี้มีงานเทศกาลโคมกระดาษที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของฮอกไกโด งานนี้จะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนซึ่งในปีนี้งานเทศกาล “ยาคุโมะดาชิ” จะจัดขึ้นในคืนวันที่ 3 และ 4 กรกฎาคม เราสามารถใส่ฮัปปิ (เสื้อชายยาวของชาวประมง) แบบชาวเมือง แล้วไปร่วมดึงโคมขนาดใหญ่กับชาวเมืองได้ และที่ Yakumo Village ก็จะเปิดกิจกรรมให้เราได้เข้าไปลองทำโคมกระดาษขนาดเล็กได้จนถึงวันงาน
.
.
ส่งท้าย
เมืองเล็กๆ ในชนบทที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวสายสโลว์ไลฟ์ ชอบธรรมชาติ และความเงียบสงบในชนบท และเหมาะกับผู้ที่เคยมาเที่ยวที่ฮอกไกโดหลายครั้งแล้ว เพื่อมาสัมผัสวิถีชีวิตอีกด้านของชาวบ้านในฮอกไกโด ค่าใช้จ่ายสำหรับ 2 วัน 1 คืน รวมที่พัก อาหาร และ Experience Program อยู่ที่ประมาณ 15,000 – 25,000 เยน อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรแกรมที่เราเลือกและมื้ออาหาร
หากต้องการจะจองแค่ Experience Program ก็สามารถทำได้ โดยควรจะจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันก่อนที่จะเข้าร่วมกิจกรรม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
https://yakumo-village.com/
หรือสามารถติดต่อกับทางเมืองได้ง่ายๆ โดยใช้ภาษาอังกฤษที่เพจ
https://www.facebook.com/yakumo.village/
.
.
.
.
Discover Cool Things!
Trippino HOKKAIDO
NEXT RECOMMEND
คอลัมน์ท่องเที่ยวฮอกไกโด
LATEST
Nov. 21 2024