. เข้าฤดูร้อน อากาศดีๆ มืดช้าๆ เหมาะมากกับสายธรรมชาติ เคยอยากไปเที่ยวหลายๆ ที่ในวันเดียวไหม และก็ต้องมากังวลกับรอบรถบัส รถไฟที่ต้องต่อไปจุดหมายที่ได้วางไว้ หรือลงป้ายแล้วก็ต้องเสียเวลาเดินกว่ารจะถึงจุดหมายอีก บางครั้งก็ไม่อยากคิดอะไรมาก อยากนั่งๆ แล้วก็ถึงที่หมายเลยใช่ไหมครับ ลองแบ่งวันในแผนเที่ยวสักวันหนึ่ง เลือกซื้อทัวร์แบบ เดย์ทริป เที่ยวกัน ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ สายธรรมชาติ เก็บวิวทะเลสาบต่างๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากซัปโปโร และออนเซนลองดูทัวร์นี้ได้ครับ เป็นทัวร์ของ YOKOSO JAPAN ที่เดินทางแบบเดย์ทริป สายธรรมชาติ ราคา 8,980 เยน เส้นทางออกจากซัปโปโรเช้าๆ แวะทะเลสาบต่างๆ จนไปหยุดยาวที่เมืองออนเซ็นโนโบริเบทสึ ก่อนแวะโทยะ แวะจุดชมวิว แล้วกลับเข้ามาส่งที่ซัปโปโรตามจุด เรียกได้ว่าไปวันเดียวได้เที่ยวครบจริงๆ ครับ ส่งถึงที่ ลง แล้วถ่ายรูป ชิมๆ กินๆ เที่ยวต่อได้สบาย ไม่เสียเวลาเดินย้อนไปสถานีรถไฟ เพื่อรอรถไฟซึ่งก็ไม่ได้วิ่งบ่อยมากนัก ดังนั้น หากใครไม่ได้เช่ารถแล้ว คิดจะเที่ยวธรรมชาติเต็มๆ ละก่อ ลองดูตัวทัวร์นี้กันครับ ก่อนดูกันก่อนว่าไปไหนบ้าง . ・ทะเลสาบชิโคสึ ・โนโบริเบทสึ-ออนเซ็น / หุบเขาจิโกกุดานิ ・มื้อกลางวัน ร้านวากาสะอิโมะ ・ภูเขาโชวะชินซัง ・ทะเลสาบโทยะ ・จุดพักรถนากายามะ . มาดูความน่าสนใจ และระยะเวลาที่ทัวร์แวะให้ในแต่ละสถานที่กันครับ
1. ทะเลสาบชิโคสึ 30 นาที
เมื่อไปขึ้นรถทัวร์ตามจุดที่ได้นัดหมายกันเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 8 โมงกว่าๆ ก็มุ่งหน้าไปสู่เขตเมืองชิโตเสะ เข้าสู่ทะเลสาบที่มีน้ำที่ใสที่สุดในญี่ปุ่น โดยทัวร์จะแวะที่ Lake Shikotsu Visitor Center เป็นเวลา 30 นาทีครับ แวะเดินไปถ่ายรูปกับทะเลสาบสวยๆ ขากลับก็สามารถมองหาของฝากต่างๆ ได้ แต่อย่าพึ่งเพลินล่ะ เพราะแวะไม่นาน 
น้ำใสมากกกกก
. .
2. โนโบริเบทสึ-ออนเซ็น / หุบเขาจิโกกุดานิ 80 นาที
เมืองโนโบริเบทสึออนเซ็น เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากในฮอกไกโดครับ ทัวร์จะมาถึงสาย และแวะให้เวลาเราที่นี่นานถึง 80 นาที เลยนะครับ สามารถเลือกได้เลยว่าจะไปเดินเล่นบริเวณจิโกคุดานิ ต่อด้วยการลัดเลาะชมธรรมชาติไปแช่เท้าที่ธารน้ำแร่ "โอยุนุมะ" หรือจะเลือกเป็นเข้าแช่ออนเซ็นในโรงแรมในเมืองนี้ ซึ่งการเข้าบ่อออนเซ็นของโรงแรมแบบเดย์ทริปนั้น จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเองนะครับ 
บรรยากาศหุบเขานรกที่แท้จริง เดินไปได้จนสุดปลายเลย
. .
3. มื้อกลางวันที่ร้าน วากาสะอิโมะ 60 นาที
เดินเล่น หรือเข้าออนเซ็นจนหมดแรงกันแล้ว ทัวร์ก็จะพามาแวะที่ร้านวากาสะอิโมะ สำนักงานใหญ่ครับ โดยทางทัวร์มี หม้อไฟอิชิคาริ เสิร์ฟ เป็นหม้อไฟปลาแซลมอน อาหารขึ้นชื่ออีกเมนูของฮอกไกโด ทานไป ชมวิวทะเลสาบโทยะจากที่นี่ได้อีกด้วย ที่พลาดไม่ได้เลยคือ ยังมีขนมมันเผาชื่อดังของที่นี่ให้ซื้อเป็นของฝากด้วยครับ 
ขนมขึ้นชื่อของร้านวากาสะอิโมะ
. .
4. ภูเขาโชวะชินซัง 60 นาที
อิ่มมื้อเที่ยงแล้ว ออกเดินทางต่อสู่ ภูเขาโชวะชินซัง เป็น ภูเขาใหม่ที่ยังระอุอยู่ สามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นกระเช้าไปชมวิวมุมสูงสู่ยอดอุซุซัง เห็นวิวทะเลสาบโทยะแบบเต็มๆ ตา หรือไปเที่ยวชมฟาร์มหมีที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้ครับ (ค่ากระเช้า, ค่าเข้าชมมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม) 
วิวมุมสูงสดชื่นมาก เมื่อขึ้นมาที่เขาอุสุ
. .
5. ทะเลสาบโทยะ 20 นาที
ก่อนลาโทยะไป ก็จะแวะที่ จุดชมวิวไซโล เป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ของทะเลสาบโทยะได้สวยงามอีกจุดหนึ่งครับ จุดนี้จะแวะไม่นานมาก แต่ก็มีเวลาพอให้ได้ถ่ายภาพสวยๆ ได้เช่นกัน 
จุดชมวิวสุดฮิต ไซโล ที่จะเห็นทะเลสาบโทยะเต็มๆ ตา
. .
6. จุดพักรถนากายามะ
เป็นจุดพักรถที่ใครๆ ก็แวะกัน เข้าห้องน้ำห้องท่า หรือชิมซอฟท์ครีม หรือขนมมันทอดของที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีก่อนกลับครับ วันไหนที่อากาศดี สามารถมองเห็นภูเขาโยเท จากจุดพักรถนี้ได้ด้วย จากจุดนี้เพื่อแวะเสร็จ ก็จะกลับเข้าถึงซัปโปโรเวลาประมาณไม่เกิน 19:00 ครับ 
ปลายทางสุดท้ายก่อนเข้าซัปโปโร อย่าลืมหาอะไรอร่อยๆ ทานด้วยล่ะ
ลองดูเส้นทางคร่าวๆ แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ เรียกว่าวันเดียวไปเที่ยวได้คุ้มเลย สายธรรมชาติ ฟินๆ ถึงที่หมายเลย ไม่ต้องเดินต่อไกลๆ ใครสนใจทัวร์นี้ลองเข้าไปจองได้ ที่หน้าเว็บด้านล่างเลยครับ เว็บมีภาษาไทย สะดวกมาก
สำหรับปี 2018 นี้ทัวร์ดังกล่าวได้หมดแล้วตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2018 แต่ยังมีทัวร์อื่นๆ ให้จองได้อีกมากมาย จองทัวร์เลยที่ >>
http://tr.webantenna.info/rd?waad=thUxeo6x&ga=WAikLs-1&ugad=thUxeo6x
.
.
Discover Cool Things!
Trippino HOKKAIDO
