COLUMN
Sep. 01 2016
ตามรอย ‘แฟนเดย์’ กับ ‘5’ เมืองเที่ยวของคุณนุ้ย และนายเด่นชัย
ตามรอย ‘แฟนเดย์’ โลเคชั่นสวยๆ ในหนังเหล่านั้นมีอยู่ที่ไหนกันนะ…
ปฎิเสธไม่ได้ว่าภาพยนตร์เป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือหนังรักเกาหลีหลายๆ เรื่อง ส่งผลให้ความต้องการอยากไปเที่ยวเกาหลี เพิ่มมากขึ้น หรือละคร การ์ตูนญี่ปุ่นยุคแรก ก็ทำให้เรารู้สึกอยากไปเหยียบสถานที่ดั่งในละคร ไปซึมซับบรรยากาศเดียวกันกับตัวละครให้ได้สักครั้ง
หนังเรื่องแฟนเดย์ เป็นหนังที่ถ่ายทำกันไกลถึงเกาะฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นช่วงของฤดูหนาว เมื่อเราพูดถึงฮอกไกโดในเวลานี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เรามาดูกันสิว่า สถานที่สวยๆ ที่พระเอกนางเอกในหนังไปเยือนนั้น เขาไปที่ไหนกันบ้าง เผื่อใครอยากไปตามรอยหารักแท้ หรือไปมุ้งมิ้งแอ็คท่าตามในหนัง เพื่อถ่ายรูปแบบในเรื่องก็จะได้ไปสะดวก
❶ Sapporo
…เมืองแห่งงานเทศกาลหิมะ ที่นุ้ยอยากไปสักครั้ง…
ซัปโปโรเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด คึกคักที่สุด และเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งเกาะฮอกไกโด แม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่เทียบกับโตเกียว หรือโอซาก้าแล้ว เรียกได้ว่าชิลกว่ากันมากๆ ด้วยอากาศ สภาพภูมิประเทศของที่นี่ ทำให้แค่นั่งรถไฟออกไปประมาณ 30 นาทีจากเมืองก็เจอป่าเขา แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ ให้สามารถรับพลังธรรมชาติบำบัดได้รีเฟรซกัน ปกติแล้วซัปโปโรนั้นสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู
ฤดูที่โดดเด่นที่สุดสำหรับชาวไทย คงไม่พ้นฤดูหนาว ในช่วงกลางเดือน ก.พ. มีเทศกาลหิมะหรือ Sapporo Snow Festival เทศกาลที่เป็นจุดหลักของหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว โดยเทศกาลนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในสวนโอโดริใจกลางเมือง ทั้งกลางวันและแสดงแสงสีสุดโรแมนติกในเวลากลางคืน
เทศการหิมะเมืองซัปโปโร เป็นงานระดับโลกที่ทำให้เมืองคึกคักที่สุด
ลานสเก็ตขนาดย่อมสำหรับคู่รักไว้เล่นคลายหนาว
❷ Otaru
…กล่องดนตรี เครื่องแก้ว และนาฬิกาไอน้ำเวทย์มนต์ของพี่ท็อป…
เมืองท่าสำคัญในสมัยก่อน และเป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ สุดแสนโรแมนติก มีกล่องดนตรีไขลาน เครื่องแก้ว และขนมหวานเป็นจุดเด่น นอกจากนี้มีร้านคาเฟ่ ร้านของฝากน่ารักๆให้สำรวจ อาหารขึ้นชื่อคือซูชิ, ข้าวหน้าปลาดิบต่างๆ และเบียร์โอตารุ เป็นเมืองที่สามารถแวะมาเที่ยวได้จากเมืองซัปโปโรในแบบ one-day trip เดินเล่นชิลๆได้อีกด้วย
ใครไปถึงโอตารุแล้ว ก็ต้องอดไม่ได้ที่จะหาซูชิสดๆ ทาน หรือของโปรดนางเอกอย่าง “อุนิ” เมื่อทานจนอิ่มหนำก็อย่าลืมเดินทอดน่องชมแหล่งช็อปปิ้งน่ารักๆ อย่างถนนซาไคมาจิโดริ (Sakaimachi Dori) ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่ตามในเรื่องคือ จุดปลายของถนน อันเป็นที่ตั้งของ Otaru Music Box museum พิพิธภัณฑ์ที่มีนาฬิกาไอน้ำอยู่ด้านหน้า โดยจะพ่นไอน้ำพร้อมตีระฆังในทุกๆ 1 ชั่วโมง ดังนั้นใครจะไปแอบใช้เวทย์มนต์แบบในเรื่องก็ตระเตรียมเวลาให้พอดีนะจ๊ะ
คลองโอตารุอันโด่งดัง
นาฬิกาไอน้ำที่หนุ่มๆ สามารถแวะมาใช้เวทย์มนต์ได้ทุกๆ 1 ชั่วโมง
อุนิ หรือหอยเม่นที่นุ้ยเลิฟฟฟ
❸ Hakodate
…ทิวทัศน์ติดอันดับโลก ทางเดินขึ้นเนินน่ารักทอดยาวเห็นทะเล…
เมืองท่าทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด อยู่ไม่ไกลจากเกาะฮอนชูเกาะหลักของฮอกไกโด เป็นเมืองที่มีโบสถ์ และสถาปัตยกรรมต่างๆในยุคที่ชาวยุโรปเข้ามาบุกเบิก เราจะพบเห็นโบสถ์และสัญลักษณ์ต่างๆเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ในเมืองนี้ได้อย่างทั่วไป ความที่เมืองนี้มีทั้งเนินเขา, ทะเล วิวกลางคืน และออนเซ็นชั้นดี ทำให้ที่นี่เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าแวะค้างสำหรับท่องเที่ยวอีกด้วย อาหารขึ้นชื่อคงเป็นอาหารทะเลในตลาดเช้า และการตกปลาหมึกเป็นๆเพื่อนำมาทำอาหารจากบ่อนั่นเอง
สถานที่เด่นที่ปรากฎในหนังคือ วิวจากภูเขาฮาโกดาเตะ ที่ต้องขึ้นกระเช้าไปชม, โกดังอิฐแดงบริเวณอ่าว แหล่งช้อปปิ้งของที่ระลึก ของกระจุกกระจิก ร้านค้าและร้านอาหารอยู่ภายใน สามารถมาเดินเล่นบริเวณท่าเรือได้เพลินๆ และเนินถนนยานโมโตะมาจิ ที่ถูกใช้ในฉากเดินสุดโรแมนติก เผยให้เห็นทิวทัศน์ของเมือง ที่มีหิมะสองข้างทาง และทะเลอยู่เบื้องหลัง
ติกอิฐแดงบริเวณอ่าว ที่สองพระนางมานั่งเล่นทานไอติมกัน
ทางเดินที่เป็นเนินโรแมนติกของเมือง
วิวจากยอดเขาฮาโกดาเตะ อันสวยลืม
❹ Noboribetsu
…มาจ้องตากันสัก 1 นาทีไหม? ณ หุบเขานรก…
โนโบริเบทสึเมืองออนเซ็นในหุบเขา มีควันไอร้อนจากใต้แผ่นดินพวยพุ่งอยู่ไม่หยุด แหล่งออนเซ็นระดับดีมากของเกาะฮอกไกโด ว่ากันว่ามีแร่ธาตุต่างๆมากมายในน้ำแร่ สามารถเดินไปชมยังใจกลางบริเวณที่มีน้ำเดือดๆผุดขึ้นมาได้ ทางเดินของที่นี่ทำด้วยไม้สุดคลาสสิค โดยมีกลุ่มควันไอน้ำ และหุบเขาสีน้ำตาลเป็นฉากหลัง
ที่นี่ถูกใช้เป็นฉากมุ้งมิ้งจ้องตากันระหว่างหนุ่มเนิร์ดเด่นชัย กับนุ้ย ที่ทำผู้ชมแทบหยุดลมหายใจ อย่าลืมมาจ้องตากันที่นี่แบบในหนังล่ะ ดูสิว่าใครจะอดทนได้นานกว่ากัน
ฉากจ้องตาอันน่ารักของนุ้ย และเด่นชัย
ทัศนียภาพระหว่างทาง
❺ Akaigawa Town
…ระฆังขอพร โรงแรมหลัก แหล่งสกีติดอันดับชั้นนำ…
พูดเมืองเมืองนี้ อาจจะต้องเอามือจับคางพร้อมทำหน้างง ว่าคือที่ไหนอยู่โซนใด แต่ถ้าบอกว่า คิโรโระ รีสอร์ท ก็ต้องร้องอ๋อกันแน่นอน คิโรโระ รีสอร์ท เป็นสกีรีสอร์ทชั้นนำโรงแรมหลักของเรื่องนี้เลย มาพร้อมกับคุณภาพหิมะในแบบ powder snow (หิมะละเอียดนุ่มดั่งผงแป้ง) สามารถมาเล่นสกีได้ตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.-เม.ย. โดยค่าแพคเกจสกีจะแตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลา มีเส้นทางการเล่นตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับ advance เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีตู้เกม, ออนเซ็น, ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ฯลฯ เรียกว่าไม่ต้องออกไปไหนก็ได้
จุดหลักที่จะไม่พูดไม่ได้เลย คือ ระฆังขอพร อันตั้งอยู่บนจุดพีคของลานสกีคิโรโระ คีย์หลัก ของเรื่องแฟนเดย์นี้ เป็นจุดสูงสุดของที่นี่ สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปได้แม้จะไม่เล่นสกี เพราะมีกระเช้ารับลงมาด้วย ดังนั้น หนาวนี้อย่าลืมแวะไปสั่นระฆังกันล่ะ อาจพบรักได้ไม่รู้ตัว…
จุดเริ่มของหนังเรื่องนี้ ที่พระเอกได้เดินมาขอพร
ลานสกีสีขาวโพลน
คิโรโระรีสอร์ท มีร้านค้า ออนเซ็น รถรับส่ง ฯลฯ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้ง 5 เมือง ที่เป็นโลเคชั่นหลักของหนังเรื่องนี้ อยากจะตามรอยกันแล้วใช่ไหมล่ะ อย่าลืมว่าหิมะของที่ฮอกไกโดเริ่มตกประมาณต้นธันวาคม ถ้าอยากเอาสวยๆ แนะนำว่าช่วงปีใหม่ หรือพีคๆ ตรงกับไทม์ไลน์ในหนังก็เป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์ไปเลย เอาล่ะจ้า รีบจด รีบหาตั๋ว ชวนเพื่อน ชวนคนรัก เริ่มเก็บเงินตั้งแต่วันนี้ยังทันน๊าา
.
Discover Cool Things !
Trippino HOKKAIDO
แอพฯ เดียวเที่ยวฮอกไกโด♪
★โหลดฟรี โหลดเลย ★
iOS : http://goo.gl/Qf5daP
Android : http://goo.gl/AxcjHG
NEXT RECOMMEND
-
Jan. 102020
บรรยากาศงาน Trippino Fan Meeting Vol.2 เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2019
-
Oct. 012024
AOAO SAPPORO พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดอลังการใจกลางเมืองซัปโปโร
คอลัมน์ท่องเที่ยวฮอกไกโด
LATEST
Dec. 13 2024
