COLUMN

May. 13 2022

พาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ต.ค.-พ.ย.

.
.

มหาวิทยาลัยฮอกไกโดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซัปโปโร ที่นักท่องเที่ยวมักจะมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน เนื่องจากว่าภายในมหาวิทยาลัยมีสถานที่ยอดฮิตอย่าง “ถนนต้นแปะก๊วย” ซึ่งเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยตลอดสองข้างทาง ที่จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทองอร่ามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายนในทุกๆ ปี
.

.
.

แต่ว่านอกจากถนนต้นแปะก๊วยแล้ว ภายในมหาวิทยาลัยฮอกไกโดยังมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอีกหลายจุด และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ภายในมหาวิทยาลัยอีก ซึ่งเราก็จะมาแนะนำไว้เป็นข้อมูลสำหรับใครที่อยากจะมาเที่ยวกันครับ
.


.

1. ถนนต้นแปะก๊วย Ginkgo Avenue

แนวต้นแปะก๊วยนี้อยู่ที่บริเวณด้านหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ และยาวไปถึงประตูฝั่งตะวันออกของมหาวิทยาลัย นอกจากต้นแปะก๊วยที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว ยังมีต้นไม้ชนิดอื่น ๆ เช่นต้นเมเปิ้ลและโอ๊ค ที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดงและน้ำตาลอีกด้วย

ในตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยจะนำเชือกมากั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายภาพกันกลางถนน เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นหนึ่งในถนนหลักที่มีรถยนต์วิ่งเข้า-ออก จึงขอความกรุณาอย่าเดินลงไปถ่ายกลางถนน และระมัดระวังพาหนะที่สัญจรผ่านไปมาทั้งรถยนต์และจักรยานนะครับ

โดยปกติแล้วในช่วงปลายเดือนตุลาคม มหาวิทยาลัยจะจัดงาน “คนโยวไซ” หรือเทศกาลใบไม้สีทอง ซึ่งจะมีการประดับไฟและปิดถนนให้สามารถลงมาเดินชมความงามของต้นแปะก๊วยได้ในเวลากลางคืนครับ

.

.
.

.

2. แนวต้นป๊อปลาร์ Poplar Avenue

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับภาพของแนวต้นป๊อปลาร์ที่มีใบสีเขียว แต่จริง ๆ แล้วต้นป๊อปลาร์ก็เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเช่นกันครับ โดยในมหาวิทยาลัยนั้นมีแนวต้นป๊อปลาร์ 2 แนว บริเวณที่เป็นที่รู้จักกันคือแนวต้นป๊อปลาร์ด้านหลังคณะวิทยาศาสตร์และมีอีกแนวที่บริเวณประตูตะวันตกครับ
.

.

.

3. พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย

พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยฮอกไกโดนั้นเปิดให้เข้าชมฟรี เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. ปิดวันจันทร์ ด้านในจัดแสดงตัวอย่างทางวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ กว่าสี่ล้านสปีชีส์ นอกจากนี้ก็ยังมีนิทรรศการน่าสนใจอีกมากมาย และที่ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ก็มีคาเฟ่และร้านจำหน่ายของที่ระลึกด้วย
.


.

4. Ono Pond

เป็นบ่อน้ำเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างคณะวิทยาศาสตร์และคณะวิศวกรรมศาสตร์ อยู่ตรงข้ามกับ Seicomart และข้าง ๆ โรงอาหารกลาง ซึ่งรอบ ๆ บ่อน้ำนี้ก็จะมีทางเดินสั้น ๆ ที่สามารถลงไปเดินหรือพักนั่งที่ม้านั่งชมใบไม้เปลี่ยนสีในบริเวณนั้นได้ด้วยครับ
.

.
.

.

5. คาเฟ่ (Cafe de Gohan, Hokudai Marche)

ที่บริเวณใกล้กับประตูหลักของมหาวิทยาลัย ก็มีคาเฟ่อีก 2 แห่ง คือ Cafe de Gohan ที่ตั้งอยู่ภายใน information center และ Hokudai Marche ที่ตั้งอยู่ในสวนฝั่งตรงข้าม ซึ่งบริเวณที่ตั้งของคาเฟ่ทั้งสองแห่งนี้ก็สามารถมองเห็นใบไม้เปลี่ยนสีรอบ ๆ ร้านได้ครับ
.

.

.

วิธีเดินทาง

สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียว (Namboku Line) ลงสถานี Kita Juni-jo แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาที หรือเดินจากสถานี JR ซัปโปโร ก็สามารถออกจากทางออกเหนือของสถานีและเดินประมาณ 5-10 นาทีก็จะถึงประตูหลักของมหาวิทยาลัยครับ
.

.
.

.
.
Discover Cool Things!
Trippino HOKKAIDO

LATEST

Dec. 13 2024

Day Trip เที่ยว 1 วัน : Asahikawa – Biei 2025