.

พูดถึงเรื่องฟุตบอล คนไทยส่วนใหญ่ก็คงจะคุ้นเคยกับชื่อของ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะทีมชาติที่ปัจจุบันกำลังเล่นให้กับสโมสร Hokkaido Consadole Sapporo สโมสรหนึ่งเดียวของฮอกไกโดใน J-League ที่เจได้โชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่แล้ว จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 11 ผู้เล่นดรีมทีมของเจลีก และได้เป็น Sapporo Dome MVP ประจำปี 2018 ด้วย

.

ช่วงเดือนมีนาคมจนถึงประมาณต้นเดือนธันวาคมก็จะเป็นช่วงเปิดฤดูกาลของเจลีก นักท่องเที่ยวจากไทยหลายคนก็อยากจะมาดูเจ ชนาธิป ตัวจริงบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะต้องจองตั๋วที่ไหน เดินทางไปสนามยังไง วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีการจองตั๋วและการไปดูฟุตบอลกันครับ
 

วิธีซื้อตั๋ว
 

❶ ซื้อผ่านเว็บ

ก่อนจะซื้อตั๋ว เราต้องไปเช็คตารางแข่งก่อนว่าทีมแข่งวันไหนบ้าง แข่งสนามไหน เพราะว่าสนามเหย้าของ Consadole Sapporo มีอยู่ 2 สนาม คือ ซัปโปโรโดม และสนามกีฬา Atsubetsu ซึ่งวัน เวลา สถานที่ของแต่ละนัด สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของทีม (https://www.consadole-sapporo.jp/ticket) สังเกตได้ว่าจะมีผังที่นั่ง 2 แบบ แบบแรกคือผังที่นั่งในซัปโปโรโดม และแบบที่สองคือผังที่นั่งที่สนามกีฬา Atsubetsu

ตารางใต้รูปผังที่นั่งคือราคาตั๋ว ช่องที่ถูกกว่าคือตั๋วที่ซื้อล่วงหน้า และอีกช่องคือตั๋วที่ซื้อในวันที่แข่ง เนื่องจากหากซื้อล่วงหน้าตั๋วจะถูกกว่า จึงแนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไปจะดีกว่า แต่ตั๋วล่วงหน้าจะเปิดขายประมาณ 1 เดือนก่อนวันแข่ง แนะนำให้ดูวันแข่งและวันเปิดขายตั๋วบนเว็บไซต์ก่อนจะทำการซื้อ การซื้อตั๋วสามารถซื้อได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

• เคาเตอร์ขายตั๋ว และร้านสะดวกซื้อ
• จองผ่านเว็บ
• โทรซื้อตั๋วผ่านโทรศัพท์

สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว การจองผ่านเว็บน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากกดเข้าไปที่ลิงค์นี้ https://www.consadole-sapporo.jp/ticket/purchase_net/ จะพบกับเว็บไซต์หลายเว็บที่ให้บริการจองตั๋วออนไลน์ ทั้งเว็บของเจลีกและเว็บของร้านสะดวกซื้อต่างๆ แนะนำว่าซื้อกับทางเจลีกจะสะดวกและมีรายละเอียดค่อนข้างครบ ทั้งวัน เวลา สถานที่แข่ง และนัดอื่นๆ ที่ยังไม่เปิดให้จองก็จะมีให้ดูรายละเอียดทั้งหมด และถ้าทำการจอง ให้เปิดใน web browser ในคอมพิวเตอร์จะสะดวกกว่า เพราะหน้าเว็บเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ถ้าแปลหน้าเว็บได้ในขณะที่จองเลยจะสะดวกกว่า

เมื่อเข้าไปที่หน้าเว็บของเจลีก ก็จะต้องสมัครสมาชิกก่อนจึงจะซื้อตั๋วได้ พอสมัครแล้วก็กดที่ปุ่มสีฟ้าเพื่อซื้อตั๋ว
 

แล้วก็จะมีให้กดเลือกโซนที่นั่ง สามารถอ้างอิงโซนที่นั่งได้จากในเว็บของสโมสร แต่ถ้าอยากนั่งที่นั่งที่ดีที่สุดก็กดเลือก コンサドーレ劇場シート ซึ่งเป็นที่นั่งที่แพงที่สุดได้เลย โซนนี้จะเป็นที่นั่งด้านหลังม้านั่งสำรอง และจะสามารถมองเห็นสนามโดยรวมได้ใกล้ชิดที่สุด

เมื่อกดเลือกโซน จะมีตัวเลือก 2 ข้อให้เรากดเลือก โดยที่อันบนจะเป็นราคาสำหรับสมาชิกคลับการ์ดของสโมสร ส่วนราคาล่างจะเป็นราคาปกติ หากไม่มีสมาชิกก็กดเลือกข้อด้านล่าง ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีบัตรหลายแบบให้เลือกอีก โดยปกติแล้วข้อบนสุดจะเป็นราคาปกติ และข้อที่มีเขียนว่า グループ คือบัตรกลุ่ม แบ่งขายทีละ 4 ใบ

หลังจากเลือกชนิดบัตรเสร็จแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนการจ่ายเงิน สามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายได้ และสามารถเลือกได้ว่าจะรับตั๋วเป็น e-ticket (QR code) หรือว่าจะพิมพ์ตั๋วที่ร้านสะดวกซื้อ หากพิมพ์ตั๋วก็จะเสียค่าออกตั๋วอีกใบละ 108 เยน และสามารถไปรับตั๋วได้ที่เซเว่น แต่ต้องนำอีเมลยืนยันการซื้อพร้อมกับเลขการจองไปให้พนักงานดูก่อนจึงจะออกตั๋วได้

.

❷ ซื้อผ่านเคาน์เตอร์ล่วงหน้า

ถ้าเกิดมาที่ซัปโปโรแล้วเพิ่งรู้ว่าจะมีแข่งในอีก 2-3 วันข้างหน้า ก็สามารถไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วได้ ส่วนที่ตั้งเคาเตอร์ต่างๆ สามารถกดดูได้ในลิงค์นี้ https://www.consadole-sapporo.jp/ticket/purchase_shop/ ร้านที่แนะนำคือร้านที่ห้าง Marui Imai ชั้น 9 ใกล้ๆ สวนโอโดริ (พิกัด: https://goo.gl/maps/6eT32W7FAcXXgV5s7 )

.

❸ ซื้อวันแข่ง และข้อแนะนำการเดินทาง

หากสุดวิสัยจริงๆ ต้องไปซื้อตั๋ววันที่มีแข่ง ก็สามารถไปซื้อที่สนามได้เลยเช่นกัน โดยจะแนะนำในส่วนต่อไป
 

ซัปโปโรโดมตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Fukuzumi สุดสายสีน้ำเงิน แนะนำว่าหากมาดูในวันเสาร์-อาทิตย์ ให้ซื้อตั๋ววัน (Donichika) ราคา 520 เยนจะประหยัดกว่า ในกรณีที่โรงแรมอยู่ในละแวกสถานีซัปโปโร เมื่อนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาถึงแล้ว เดินตามป้ายบอกทางไป Sapporo Dome เรื่อยๆ หรือเดินตามฝูงชนไป ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาทีก็จะถึงซัปโปโรโดม

โดยปกติ การแข่งขันจะเริ่มในเวลาประมาณ 13.00 น. หรือ 14.00 น. หากมีบัตรแล้ว แนะนำว่าให้มาถึงสนามประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงก่อนการแข่งขันจะเริ่ม แต่หากยังไม่มีบัตร ที่สนามจะเปิดขายบัตรในเวลาประมาณ 10.00 น. ก็สามารถมาซื้อบัตรที่สนามได้ โดยเคาเตอร์ขายบัตรจะอยู่บริเวณใกล้ๆ กับประตูเหนือ หากเดินขึ้นบันไดในภาพด้านบนก็จะพบกับลานในรูปด้านล่างนี้

และเมื่อเดินตรงไปอีกก็จะพบกับเคาเตอร์ขายตั๋ว

สามารถเข้าไปติดต่อซื้อตั๋วของการแข่งขันวันนั้นได้เลย ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษาเพราะจากที่เห็นก็พอจะมีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้อยู่บ้าง

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมต้องเผื่อเวลาไว้ 1-2 ชั่วโมง ก็เพราะว่าหากเดินตรงจากเคาเตอร์ขายตั๋วมาอีกนิด ก็จะพบกับ…

.

.

.

Dome Shop หรือร้านขายของ ณ ซัปโปโรโดมนั่นเอง ภายในนั้นเต็มไปด้วยเสื้อทีมและสินค้ามากมายจากทั้งทีมเบสบอลและทีมฟุตบอล สามารถเลือกซื้อได้ตามอัธยาศัย

หลังจากเลือกซื้อของจนหนำใจแล้ว ก็เดินออกมาแล้วตรงขึ้นไปอีกนิดเพื่อเข้าไปด้านในโดม เราสามารถถามพนักงานในบริเวณนั้นได้ว่าบัตรโซนของเราต้องเข้าประตูไหน แต่ปกติแล้วจะเข้าได้ทุกประตูยกเว้นประตูที่เปิดให้สำหรับสมาชิกคลับการ์ดของสโมสร ก่อนเข้าประตูเราจะต้องถูกตรวจกระเป๋า ซึ่ง *ขวด PET และกระป๋อง ไม่สามารถนำเข้าสนามได้* แต่ด้านหน้าจะมีแก้ววางไว้ให้เราเทของเหลวจากบรรจุภัณฑ์เหล่านั้นใส่แก้ว แล้วถือแก้วเข้าไปแทน ระหว่างทางที่เดินเข้าไปก็จะมีหนังสือ match day เป็นข้อมูลของสองทีมที่แข่งกันในวันนั้น และบางครั้งอาจจะมีของแจกหรืออุปกรณ์เชียร์เล็กๆ น้อยๆ เช่น

กระดาษที่มีรอยพับแผ่นนี้กำลังจะถูกแปลงสภาพไปเป็นพัดเชียร์ในอีกไม่กี่อึดใจ

จ๊ะเอ๋ ได้พัดเชียร์ไว้ตีให้จังหวะตอนร้องเพลงเชียร์กับกองเชียร์ในสนามแล้ว!
 

ด้านในของสนามบริเวณใต้อัฒจันทร์ก็เต็มไปด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ สามารถเดินเลือกซื้อและนำเข้าไปทานด้านในระหว่างชมการแข่งขันได้ตามอัธยาศัย (แต่ต้องเก็บทิ้งด้วยนะ!) ส่วนห้องน้ำก็มีจำนวนค่อนข้างเยอะ รองรับมวลชนกองเชียร์ได้อย่างดีทีเดียว

.

จากรูปนี้ มุมที่นั่งถ่ายคือโซนสีฟ้า หมายเลข 4 ในผังที่นั่งของซัปโปโรโดม ซึ่งจะไม่มีเลขที่นั่งตายตัว แต่หากซื้อตั๋วแบบอื่นจะมีให้กดเลือกที่นั่งเอง

เมื่อการแข่งขันจบลง นักกีฬาจะเดินขอบคุณกองเชียร์รอบสนาม เราสามารถอยู่รอพบกับนักกีฬาก่อนก็ได้เพราะถ้ารีบออกไปบางครั้งรถไฟฟ้าใต้ดินจะแน่นมาก การแข่งขันจะใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมงโดยประมาณ

 

.

สำหรับเบสบอล

นอกจากจะเป็นสนามเหย้าให้กับทีมฟุตบอลแล้ว ซัปโปโรโดมยังเป็นสนามเหย้าให้กับทีมเบสบอล Hokkaido Nippon Ham Fighters อีกด้วย สามารถตรวจสอบตารางแข่งได้ที่นี่ https://www.fighters.co.jp/game/calendar/ และสามารถซื้อตั๋วได้ที่ช็อปของทีม ด้านหน้าสถานีซัปโปโร (พิกัด: https://goo.gl/maps/qiC7JZgN9VSaMbMh6)

.

หากเปรียบเทียบแล้ว ที่นี่กีฬาเบสบอลนั้นได้รับความนิยมมากกว่าฟุตบอลมาก เลยทำให้คนไปดูเยอะมากๆ บรรยากาศการเชียร์ก็ต่างออกไปเช่นกัน ถ้าสนใจอยากจะลองไปชมเบสบอลดูสักครั้งในชีวิตก็ลองซื้อตั๋วไปดู แต่การแข่งขันเบสบอลจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไม่แน่นอน อาจต้องเผื่อเวลาเล็กน้อย
 

.

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับ Sapporo Dome

ก่อนจากกัน ก็ขอฝาก fun facts เกี่ยวกับซัปโปโรโดมไว้เล็กน้อย เพราะซัปโปโรโดมไม่ใช่แค่โดมธรรมดา แต่เป็นหนึ่งในสนามกีฬาในร่มที่ค่อนข้างใหญ่และทันสมัยแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

1. มีความจุ 41,484 ที่นั่งสำหรับฟุตบอล และ 42,270 ที่นั่งสำหรับเบสบอล
2. สนามฟุตบอลที่เห็น จริงๆ แล้วเลื่อนเข้า - ออกโดมได้ เมื่อมีการแข่งขันเบสบอล สนามฟุตบอลจะถูกเลื่อนออกไปไว้ด้านนอก และเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอล หญ้าเทียมที่ใช้สำหรับสนามเบสบอลจะถูกเก็บออกไป และสนามฟุตบอลก็จะถูกเลื่อนเข้ามาแทนที่
3. เคยถูกใช้ในการแข่งขัน World Cup 2002
4. กำลังจะถูกใช้เป็นหนึ่งในสนามแข่งใน Rugby World Cup 2019 และจะถูกใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิก 2020
5. เป็นสนามแรกที่จัดการแข่งขันสกีในร่มและสกีกลางคืนในสนามเดียวกัน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว
6. มีจุดที่เปิดให้ขึ้นไปชมสนามทั้งหมดได้ แต่จะปิดในวันที่มีแข่งกีฬา สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.sapporo-dome.co.jp/foreign/index-en.html

.

.

Discover Cool Things!

Trippino HOKKAIDO