Column

May. 24 2018

เส้นทางขับรถเที่ยว 6 วัน ทัวร์เมืองดัง ชมธรรมชาติ แช่ออนเซน

  พอเข้าหน้าร้อนแล้วก็ขับรถสบายขึ้น เดี๋ยวนี้การขับรถในฮอกไกโดนั้นแสนสะดวกสบายและไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ อย่างที่รู้ๆกันว่าการขับรถเนี่ย สามารถทำให้เราเดินทางเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่รถไฟไม่สามารถเข้าไปถึงได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญหากไปเที่ยวกันหลายๆคน เราก็สามารถหารราคาเช่ารถกันได้ ทำให้เพื่อนๆสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวลงได้เยอะเลยครับ วันนี้พวกเราก็เลยจะมาแนะนำตั๋วขึ้นทางด่วนเหมาๆ ชื่อว่า Hokkaido Expressway Pass เป็นตั๋วที่เข้าออกทางด่วนได้ตลอดเวลาระยะในตั๋ว ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อขับผิด หรือยังไงนะครับ  ตัวอย่างเส้นทางการขับขี่รถในฮอกไกโดในช่วงหน้าร้อนมาให้ทุกคนได้นำไปใช้เป็นไอเดียสำหรับการท่องเที่ยวในครั้งต่อไปได้  ซึ่งบทความนี้เราได้รวบรวม เส้นทางยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวในระยะเวลา 6 วัน กับตั๋วเหมา ราคา 7,200 yen มาให้เพื่อนๆทุกคนได้ใช้เป็นไอเดียในการท่องเที่ยวแล้วนะครับ   

คลิปแนะนำการเช่ารถ และการซื้อตั๋วทางด่วนแบบเหมา

การซื้อตั๋วพาสทางด่วนนั้น สามารถหาซื้อได้ที่ร้านเช่ารถเกือบทุกแห่งในฮอกไกโดครับ และเส้นทางที่เราจะไปกันก็จะ วนเป็นลูป ไม่ต้องขับวนกลับแบบนี้ (แผนที่ล่าง) โดยไปเมืองดังๆ ได้แก่ โนโบริเบทสึ, โทยะ, ฮาโกดาเตะ, นิเซโกะ, โยอิจิ, โอตารุ และซัปโปโร ครับ มาดูกันดีกว่า 

เส้นทางเริ่มจากสนามบินวนตามเข็มนาฬิกาขึ้นไป


.

Day 1 สนามบินชิโตเสะ → โนโบริเบทสึ ออนเซน  (1 ชั่วโมง) New Chitose Airport IC - Noboribetsu Higashi IC 1,750 เยน

 เมื่อเดินทางถึงสนามบินชิโตเสะ และทำการเช่ารถและซื้อตั๋วทางด่วนแบบเหมาจ่ายเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางไปยังเมืองออนเซนชื่อดังของฮอกไกโดนะครับ โดยสถานที่แรกที่เราจะไปนั่นก็คือ โนโบริเบทสึออนเซน โดยการเดินทางจากสนามบินชิโตเสะถึงโนโบริเบทสึออนเซน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กิจกรรมสำหรับวันแรกนี้เราของแนะนำให้เพื่อนๆ แช่ออนเซนเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าภายหลังจากการนั่งเครื่องบินมาอย่างยาวนาน เพื่อให้เพื่อนๆมีความพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันต่อๆไป และหากใครยังพอมีกำลังเหลืออยู่แนะนำให้เดินเที่ยวชมธรรมชาติในบริเวณรอบๆเมืองนั้น โดยสถานที่ที่เราจะแนะนำนั่นก็คือ หุบเขานรก (จิโกคุดานิ) นั่นเองครับ

ลงเครื่องมาก็พบกับโดราเอม่อนมายืนต้อนรับ

บริเวณหุบเขานรก เมืองโนโบริเบทสึ


 .

Day 2

โนโบริเบทสึ→ ทะเลสาบโทยะ (1 ชั่วโมง) Noboribetsu Higashi IC - Abuta Toyako IC 1,420 เยน

  เมื่อเที่ยวที่โนโบริเบทสึเสร็จเรียบร้อยแล้วในวันแรก ในวันที่สองนี้พวกเราขอแนะนำให้เพื่อนๆ เที่ยวต่อที่ ทะเลสาบโทยะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากที่แรกครับ การเดินทางจากโนโบริเบทสึไปทะเลสาบโทยะ ใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น  โดยที่ทะเลสาบโทยะมีกิจกรรมที่น่าสนใจที่เพื่อนๆต้องลอง นั่นก็คือ การล่องเรือชมทะเลสาบในช่วงกลางวัน และแวะชมเกาะนากาจิม่าที่อยู่ตรงกลางทะเลสาบ และที่โทยะ มีโรงแรมต่างๆ ที่เปิดให้แช่ออนเซ็นได้เช่นกันครับ อ้อ ขอบอกว่าบริเวณหน้าทะเลสาบมีจุดให้แช่เท้าฟรี พร้อมชมวิวฟินๆ ของทะเลสาบโทยะด้วยนะครับ

หน้าทะเลสาบโทยะ ยืนชมวิวรับลมเย็นๆ 

วิวทะเลสาบในมุมสูง ตรงกลางคือเกาะนากาจิมะ


.

Day 3 

ทะเลสาบโทยะ→โอนุมะ (2 ชั่วโมง)→ฮาโกดาเตะ (30 นาที) Abuta Toyako IC - Onumakoen IC 3,330 เยน

 จากทะเลสาบโทยะ เพื่อนๆสามารถออกเดินทางตอนสายๆ สบายๆ ลงมายังเมืองฮาโกดาเตะ ที่เป็นเมืองท่าชื่อดังทางตอนใต้กันต่อ แต่ก่อนอื่นเลยขับรถนานๆ เราขอแนะนำให้แวะชมธรรมชาติที่สวนโอนุมะ โดยที่สวนโอนุมะนั้นมีกิจกรรมยอดฮิตนั่นก็คือ การเดินเยี่ยมชมบนเส้นทางสำรวจธรรมชาติขนาดย่อมๆ และหากมีพลังเหลือ เพื่อนๆสามารถเช่าจักรยานปั่นต่อได้อีกด้วยนะครับ เมื่อแวะพักผ่อน ชมวิว และสูดอากาศจนเต็มปอดเรียบร้อย ก็ขับต่ออีกนิดลงไปเมืองฮาโกดาเตะได้ครับ เมื่อมาถึงบ่ายๆ ให้แวะชม สถาปัตยกรรม จำพวก โบสถ์และอาคารต่างๆ รวมไปถึงทิวทัศน์เมืองที่มีลักษณะเป็นเนินลาดลงไปจนถึงบริเวณอ่าวนั้นก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่อยากมาเดินเล่นกันครับ และจุดสำคัญที่สุดที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้ไปเที่ยวชมนั่นก็คือ จุดชมวิวบนภูเขาฮาโกดาเตะ ที่มีวิวยามค่ำคืนที่สวยติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ครับ

บรรยากาศดีๆ ที่สวนโอนุมะ ก่อนเข้าฮาโกดาเตะ

โบสถ์ต่างๆ ของเมืองที่เหมือนไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่น สามารถเข้าชมได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย

วิวกลางคืนที่เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่


.

Day 4

ฮาโกดาเตะ → นิเซโกะ (2:30  ชั่วโมง) Onumakoen IC - Kuromatsunai IC 2,670 เยน

ต่อวันที่สอง กับฮาโกดาเตะ แนะนำเลยกับตลาดปลาสดๆ ครับ ที่นี่มีคนคึกคักแล้วล่ะก็เมืองนี้เป็นอีกเมืองหนึ่งในฮอกไกโดที่พลาดไม่ได้เลยครับ สามารถมาฝากท้องมื้อเช้าของวันนี้ได้ที่ตลาดนี้เลย แนะนำเป็นซูชิ หรือปลาหมึกสดๆ ที่ตกได้ในร้านค้า  เมื่อทานเรียนร้อย ซื้อของฝาก สายๆ เราก็ไปยังเมืองนิเซโกะกันเลยครับ เพื่อนๆรู้มั้ยว่าเมืองนิเซโกะนี้ได้ชื่อว่าเป็นบ้านพักตากอากาศชั้นดีแห่งหนึ่งในฮอกไกโดเลยนะครับ เพราะว่าเมืองนี้นั้นรายล้อมด้วยหุบเขาและธรรมชาติต่างๆ และวิวเด่นของเมืองนี้ก็คือ ภูเขาโยเท ที่มีรูปร่างคล้ายภูเขาไฟฟูจินั่นเองครับ

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ มาฝากมื้อเช้าไว้ที่นี่ ได้เลย

ไอศกรีมร้านดัง ถ่ายคู่กับภูเขาโยเท เมืองนิเซโกะ

ชินเซนนุมะ เป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะที่น่าสำรวจในเมืองนิเซโกะ


.

Day 5

นิเซโกะ→โยอิจิ→โอตารุ→ซัปโปโร

  เส้นทางวันนี้อาจจะต้องแวะหลายที่หน่อย เพราะจะเป็นการเดินทางเข้าเมืองพร้อมแวะชมสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าหากเพื่อนๆอยากข้ามบางสถานที่ไปก็สามารถทำได้ครับ  เพื่อนๆสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมและความต้องการครับ โดยเส้นทางที่เราจะแนะนำมีดังนี้ครับ   นิเซโกะ→โยอิจิ (1:15 ชั่วโมง) เมืองโยอิจิ เป็นเมืองต้นกำเนิดของวิสกี้โยอิจิ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ที่นี่มีทั้งตั้งโรงงานกลั่นเหล้า มีเหล้า, แอลกอฮอล์ให้ชิม และเลือกซื้อกลับได้นะครับ แต่ต้องขอบอกเพื่อนๆไว้ก่อนว่า ที่ญี่ปุ่นนั้นห้ามผู้ที่เพิ่งดื่มสุรานั้นขับรถโดยเด็ดขาด ดังนั้นเพื่อนๆที่มีหน้าขับรถควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราก่อนขับรถนะครับ  

จุดถ่ายภาพยอดนิยมของโยอิจิ ที่ต้องขับรถมาเท่านั้น

โรงกลั่นวิสกี้โยอิจิ ที่มีชื่อเสียง

โยอิจิ→โอตารุ (40 นาที) จากโยอิจิก็เข้าสู่เมืองโรแมนติกที่ชื่อว่าโอตารุ เมืองที่สาวๆ หลายคนจะต้องชอบ เพราะเต็มไปด้วยขนมหวาน กล่องเพลง และเสียงดนตรี และที่สำคัญอย่าพลาดกับวิวคลองโอตารุ ที่เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของที่นี่ คอซูชิ ก็พลาดไม่ได้เช่นกันครับ เพราะที่นี่มีร้านซูชิอร่อยเด็ดมากมายให้เพื่อนๆได้ลิ้มลองกันครับ  

คลองโอตารุ ในหน้าร้อน

โอตารุ→ซัปโปโร (1 ชั่วโมง) Otaru IC - Sapporo kita IC 1,220 เยน ปิดท้ายการท่องเที่ยวในวันนี้ที่ซัปโปโร เมืองที่คึกคักที่สุดในฮอกไกโด หากเพื่อนๆมาถึงตอนเย็นๆ อาจแวะเดินเล่นกันที่สวนโอโดริ ชม TV Tower ยามเย็น และแน่นอนว่าก่อนวันกลับเพื่อนๆหลายคนก็มีแพลนในการตระเวนล่าซื้อของฝาก ซึ่งย่านสำหรับการหาซื้อของฝากที่แนะนำนั่นก็คือ บริเวณสถานีซัปโปโร และ ย่านถนนทานุกิโคจิ โดยย่านที่เราแนะนำนั้นมีร้านขายของฝากต่างๆมากมาย และที่สำคัญร้านค้าเหล่านี้นั้นเปิดจนถึงช่วงดึกเพื่อคอยต้อนรับและให้บริการเหล่าบรรดานักช้อปทั้งหลายอยู่ครับ

เมืองซัปโปโร ถ่ายจากหอ TV Tower ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ


.

Day 6 

ซัปโปโร→สนามบินชิโตเสะ  (1 ชั่วโมง) Sapporo Kita IC - Chitose IC 1,300 เยน

ในวันสุดท้ายนี้ หากเพื่อนๆจองไฟลท์กลับในช่วงบ่ายๆ เพื่อนๆก็ยังสามารถเที่ยวต่อในเมืองได้อีกนิดหน่อยนะครับ แต่เพื่อนๆก็อยากลืมเผื่อเวลาในการขับรถ และการทำเรื่องต่างๆ เช่น การคืนรถ หรือเช็คอินนะครับ และเราอยากกระซิบบอกว่าระหว่างทางจากซัปโปโร ไปสนามบินเนี่ย มีจุดพักรถ ที่มีของกินอร่อยๆ รออยู่ด้วยนะครับ ซึ่งจุดพักรถนี้ชื่อว่า WATTSU เป็นจุดพักรถขนาดใหญ่ เพื่อนๆสามารถมาแวะทานอาหารในฟู้ดคอร์ท, ซื้อของฝากที่นี่ก็ได้ หรือจะลองชิมซอฟท์ครีมที่เป็นของกินที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก่อนกลับก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกันนะครับ อ้อ ยังมีมุมขายของที่ระลึกเฉพาะเขตเมืองคิตะฮิโรชิม่า ชื่อน้อง "คิตะฮิโระ มายพี" ให้ซื้อกลับได้ด้วย

ของที่ระลึกที่จำหน่ายในจุดพักรถ

มาสคอตน้อง "คิตะฮิโระ มายพี" ของจุดพักรถก็ยังมีให้ช้อป

softcream ตัวเด็ดของจุดพักรถนี้ ที่อยากแนะนำ


  เป็นอย่างไรกันบ้างครับเพื่อนๆ สำหรับไอเดียการท่องเที่ยวทั้ง 6 วันในฮอกไกโด ด้วยการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว และตั๋วทางด่วนแบบเหมาจ่าย Hokkaido Expressway Pass ซึ่งตั๋วทางด่วนแบบเหมาจ่ายนั้นเพื่อนๆสามารถหาซื้อได้ที่ร้านเช่ารถทั่วไปในฮอกไกโด เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการความเป็นอิสระและคล่องตัวในการท่องเที่ยว นอกจากนี้สำหรับเพื่อนๆที่พาญาติผู้ใหญ่หรือเด็กเล็กไปด้วย ก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องยิบย่อยระหว่างการเดินทาง เช่น การต้องเข้าห้องน้ำกะทันหันระหว่างการเดินทาง เพราะว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัวนั้น เพื่อนๆสามารถที่จะวางแผนในการแวะพักหรือทำธุระส่วนตัวต่างๆได้ด้วยตนเองตลอดระยะเวลาการเดินทางนั่นเองครับ สรุป ราคาแบบจ่ายปกติ                                11,690 yen ราคาตั๋ว Hokkaido Expressway Pass 7,200 yen **ประหยัดถึง 4,490yen !!   ลองใช้บทความนี้วางแผนการเที่ยวในฮอกไกโดแบบใหม่ๆ กันดู เชื่อว่าการท่องเที่ยวฮอกไกโดครั้งหน้าจะต้องเป็นทริปที่ประทับใจ และไม่ซ้ำใครแน่นอนครับ   ข้อมูล  ตั๋วขึ้นทางด่วนแบบเหมา รายละเอียดเพิ่มเติม >> http://www.driveplaza.com/trip/drawari/hokkaido_expass/th.html  

.

.

Discover Cool Things!

Trippino HOKKAIDO

 

Must
Go
Now!

คุณควรไปตอนนี้!

Mar2024

คุณควรไปตอนนี้!