COLUMN

Jun. 20 2017

เช่ารถ・ใช้ NAVI ・และที่จอด ในฮอกไกโด

 

ที่ฮอกไกโด หิมะเริ่มละลายช่วงเดือน เมษายน และพอเข้าฤดูร้อน เดือน มิ.ย. ยาวไป ถนนหนทางสำหรับการขับขี่รถที่นี่จะง่ายขึ้นเยอะ โดยเฉพาะใครเคยผ่านการขับรถในกรุงเทพมาแล้วนะครับ   เอาล่ะ คราวนี้จะบอกให้คร่าวๆ ว่าเช่ารถยังไง ต้องเตรียมอะไรมาบ้าง ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ และก็กฏจราจรที่ต้องปฏิบัติตาม การใช้ NAVI เมื่อขับรถที่ ฮอกไกโด และญี่ปุ่นนะครับ  เราจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

  1. การเช่าและขับขี่
  2. การใช้นาวิเกชั่น
  3. การใช้ที่จอดรถ

.

ทัศนียภาพสวยงามแห่งบิเอ ที่ขับรถมาชมกันได้อย่างถึงที่

.วิวภูเขาโยเท ที่ชื่อว่าเป็นฟูจิซังแห่งฮอกไกโด ต้องขับรถมาชมกันนะครับ 


.

.

❶ การเช่าและขับขี่

บริษัทเช่ารถ

ร้านเช่ารถมีหลายบริษัทมากมาย ก็เลือกกันได้ตามสะดวกนะครับ เช่น Times, Toyota rental แต่บล็อกนี้เราจะแนะนำให้เลือก Nippon Rent A-Car (http://www.nrh.co.jp/foreign) เพราะเช่าง่ายที่สุดแล้วครับ สะดวกใกล้สถานีซัปโปโร, มีปั๊มของตัวเอง คือสามารถมาเติมที่นี่ตอนคืนรถแล้วจ่ายเงินได้เลย ไม่ต้องวนหาปั้มไปเติมมาก่อน, เว็บไซต์มีเป็นภาษาอังกฤษ และที่สำคัญเลยคือมีพนักงานที่พูดอังกฤษได้ ซึ่งบางที่พูดไม่ได้เลย (จริงๆ) ทำให้สื่อสารกันค่อนข้างลำบาก

 

วิธีการเช่ามี 2 แบบคือ

  1. จองในเว็บของ Nippon ไปเลยครับ (ภาษาอังกฤษ) สามารถเลือกได้ว่าเช่าวันไหน คืนวันไหน สถานที่รับรถและส่งรถคืน รถรุ่นไหน ซื้อบัตรทางด่วนไหม หรือจะบัตรทางด่วนแบบเหมา ประกันเพิ่มเอาไหม ฯลฯ โดยจะต้องรออีเมล์ตอบรับจากทางศูนย์ แล้วปริ้นไปแสดงวันรับรถ
  2. จองที่เคาท์เตอร์ Nippon เลยคล้ายๆกับจองในเว็บ แต่พนักงานจะอธิบายให้เราฟังแทน เหมาะกับคนเที่ยวแบบไม่ค่อยแพลนมาก แบบวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ นึกอยากขับรถ ก็เดินไปจองที่สาขาเอาเลย

 

สิ่งที่ต้องเตรียม ง่ายๆเลย

  1. ใบขับขี่สากล (ทำจากไทยไป ไปทำที่ขนส่งแปปเดียวได้)
    ข้อมูลการขอ ดูเว็บกรมการขนส่ง  คลิก ที่นี่
  2. Passport
  3. บัตรเครดิต หรือ เงินสด (เงินเยนญี่ปุ่นนะ)

 

ราคาการเช่า (โดยประมาณ)

จะมีหลายระดับขึ้นอยู่กับขนาดของรถเริ่มตั้งแต่ standard (660 cc )-Minivan(2500 cc) และจำนวนชั่วโมงในการเช่า ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 3 ชม และช่วง High season จะมีราคาที่แพงขึ้นนิดหน่อย โดย standard เริ่มตั้งแต่ 6700เยน/24ชม นั่งได้ 4 คนและสัมภาระ 2ใบ ถ้ามากันเป็นกลุ่ม Minivan จะเป็นพวก TOYOTA ALPHARD ราคาจะเริ่มตั้งแต่ 27,000เยน/24ชม สามารถนั่งได้ 6 คนและสัมภาระอีก 6ใบ

เอาเป็นว่าถ้าเช่าถูกสุด คนเล็กๆ แบบนั่งได้ 4 คน Eco-car บ้านเรา ก็ตีไปเลยว่าวันละ 10,000yen ก็ได้ครับ เพราะเดี๋ยวจะมีพวกค่าประกันต่างๆ เข้ามาอีก ซึ่งเราแนะนำว่าให้ซื้อประกันด้วยดีที่สุด

 

กฏจราจรที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

  1. ขับรถเลนซ้าย เหมือนที่ไทย
  2. คนเดินเท้าสำคัญกว่ารถ หยุดให้คนข้ามทางม้าลายก่อนเสมอ
  3. อัตราความเร็วไม่ควรเกิน 60กม/ชม แต่บางเส้นทางอาจจะมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ แต่ถ้าไม่มีป้ายบอกก็ไม่ควรเกินที่ 60นะครับ
  4. ระวังในเขตที่ห้ามแซง
  5. ห้ามขับในขณะมึนเมา (ดื่มแล้วขับไม่ได้เลยนะครับ)
  6. คาดเข็มขัดตลอดเวลา หากเป็นทางด่วน ผู้ที่นั่งข้างหลังให้คาดด้วยทุกคน
  7. จอดรถในที่สถานที่อนุญาตให้จอดได้เท่านั้น
  8. หลักๆก็ประมาณนี้ ส่วนเพิ่มเติมอื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่เว็บการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่นี่ 

 

ในรถมีหนังสือรวมเส้นทาง และมี MAPCODE รวมไว้ทั้งเกาะให้ฟรี


.

.

❷ การใช้นาวิเกชั่นบอกทาง (NAVI)

การท่องเที่ยวขับรถเดี๋ยวนี้ง่ายขึ้นเยอะ รถแทบทุกคันต้องมี NAVI (คนญี่ปุ่นเรียก “นาบิ”) ติดให้แบบฟรีๆอยู่แล้ว  ซึ่งใครที่กลัวจะขับไม่ถูก กลัวจะหลงทางแล้วหล่ะก็ นี่เลยยย Trippino จะแนะนำวิธีการใช้ Navigator เวลาขับรถในญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่แล้วนาวิเกเตอร์จะมีภาษาอังกฤษด้วยนะครับ แต่บางช่วงที่คนเที่ยวเยอะเราอาจจะได้ Navigator เมนูญี่ปุ่นมา  ทำไงดีล่ะ การป้อนข้อมูลใน นาวิเกชั่นมีหลายแบบเลย เช่น ใส่ชื่อสถานที่, ใส่ MAPCODE (แมพโค้ด), ใส่เบอร์โทร ฯลฯ

วิธีที่ ง่ายที่สุดคือการใส่เบอร์โทรศัพท์ ให้เราหาเบอร์โทรศัพท์ของสถานที่ที่เราอยากจะไปมาก่อน แล้วกดไปที่เมนูนี้เลย 電話番号 ใส่เบอร์โทรศัพท์เข้าไปตามภาพครับ สถานที่ปลายทางก็จะโชว์ขึ้นมาจากนั้นกดปุ่มธง  ก็จะพาท่านไปสู่จุดหมายที่เลือกไว้ ง่ายๆแค่นี้เองแนะนำว่า ถ้าตรงไหนไม่มั่นใจ กูเกิลทรานสเลทครับ ถ่ายรูปตัวหนังสือแล้วแปลเอานะ  มาๆ ดูอธิบายด้านล่างได้เลยครับ 

ปล.
1) NAVI ภาษาญี่ปุ่นจะมีสถานที่อัพเดทเยอะกว่า ภาษาอังกฤษนะครับ จากที่สังเกตจากการลองใช้ทั้ง 2 แบบ
2) ในรถจะมีหนังสือรวม MAPCODE สถานที่เที่ยวหลักๆไว้หมดแล้ว ซึ่งคลอบคลุมที่หลักๆไว้หมด จะใช้แค่ตัวนี้ก็ไม่มีปัญหา

หน้าจอพร้อมใช้งานจะเป็นแบบนี้

 

กดไปที่เมนูตามภาพนี้ได้เลย

กดหมายเลขปลายทางของสถานที่ที่จะไป 

 

เลือกสถานที่ปลายทางที่จะไป (ในภาพคือโรงงานชอคโกแลต)

 

จากนั้นกดปุ่มธง  ก็จะพาเราไปสถานที่ปลายทาง

 

 


.

.

❸ การใช้ที่จอดรถ

ได้รถขับแล้ว ใช้เครื่อง NAVI นำทางเป็นแล้ว สุดท้ายก็เหลือการใช้ที่จอดรถแล้วนะครับ ที่ฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะจอดรถฟรี คือเป็นลานจอดกว้างๆ แบบบ้านเราครับ โดยจะต้องจอดเข้าไปในซองตามเส้นที่ได้ตีช่องไว้ให้  ไม่มีการจอดขนานบังหน้ารถคันอื่น แบบในห้างบ้านเราครับ  หากเป็นข้างทางต้องเช็คดูให้ดีว่าสามารถจอดได้หรือไม่นะครับ โดยดูจากเครื่องหมายห้ามจอด ซึ่งปกติแล้ว หากจอดเพื่อเข้าไปเที่ยวชมสถานที่นั่นๆ จะมีลานจอดรถ หรือที่จอดรถแบบเสียเงินจัดไว้ให้ใกล้ๆครับ  กรณีที่เป็นโรงแรมในเมือง สามารถสอบถามได้จากพนักงานโรงแรมครับ

หากจอดแบบเสียเงิน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นให้ดึงบัตรจอดรถเก็บไว้กับตัว และกลับมาจ่ายตอนชับออก มาดูการใช้เครื่องกันครับ (เครื่องอาจต่างกันในแต่ละที่)

 

วิธีจอดรถและการชำระเงินค่าจอดรถที่ตู้อัตโนมัติ

1. เอารถมาเทียบข้างๆตู้อัตโนมัตินี่ กด issue (ปุ่มเขียว) ก็จะได้ บัตรจอดรถมา เก็บเอาไว้

2. ในตัวอย่างเราจอดค้างคืนไว้ พอเช้ามาก็ขับรถออกมาจากที่จอด (บางแห่งทางเข้ากับทางออกคนละที่กันนะ ดูให้ดีๆ) จอดเทียบข้างตู้อัตโนมัติเหมือนเดิม เสียบบัตรจอดรถเราเข้าไป

3. จากนั้นก็จะขึ้นจำนวนเงินค่าจอดรถขึ้นมา หยอดเหรียญหรือใส่แบงค์ให้ครบจำนวนเงินบนหน้าจอ ง่ายๆแค่นี้เอง

 

4. ถ้าทำถูกต้อง คานกั้นรถก็จะเปิดออกให้ขับออกไปได้นั่นเองครับ

 


 

การขับรถที่ญี่ปุ่น ถือว่าเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับคนไทยที่มีสกิลการขับรถที่ไทยมาอย่างเต็มที่ การเคารพกฏจราจร ถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมากในประเทศที่เคร่ง และเป็นระเบียบแบบญี่ปุ่นนี้ และไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่น แต่เป็นทุกประเทศที่เราไปเลยนะครับ เพราะอุบัติเหตุเกิดได้ทุกที่จริงๆ หรือหากเกิดอะไรขึ้น การสื่อสาร กับคนท้องถิ่น หรือตำรวจจะลำบากแน่นอน  ส่วนใครที่กำลังจะมาเที่ยวในเร็วๆนี้ วางแผนมาลองขับรถกันนั้นก็ทั้งสะดวก ประหยัด  ทำใจสบายๆ ขับเต่าๆหน่อย ถึงแน่นอน แล้วจะได้พบวิวข้างถนนที่รถไฟเข้าไปไม่ได้ เก็บไว้เป็นประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิต ใครถูกใจข้อมูลดีๆของเพจเรา ฝากไลค์ฝากแชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆกันด้วยนะครับผม

ระวังวัว ขับขี่ปลอดภัย ประทับใจกันทุกๆคนนะครับ

.

.

Discover Cool Things !

Trippino HOKKAIDO

LATEST

Dec. 13 2024

Day Trip เที่ยว 1 วัน : Asahikawa – Biei 2025